ll บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (10-14 มี.ค. 2568)...โดยระบุว่า...ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับลดลงเนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร (OPEC+) ตัดสินใจคงแผนการเพิ่มกำลังผลิตตามเดิม ขณะที่อุปสงค์น้ำมันเผชิญความไม่แน่นอนสูงขึ้นเพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีครั้งใหม่กับจีน แคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจของเยอรมนี จากหนี้สาธารณะของประเทศที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจของจีน หลังที่ประชุมประจำปีของของสภาประชาชนแห่งชาติ ยังคงเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ระดับ 5% รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการดำเนินนโยบายการคลังที่ขาดดุลมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาการเจรจาข้อตกลงแร่หายากระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนอย่างใกล้ชิด...ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 61-71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 65-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...
llว่า “Millennium Energy B.V. (Millennium)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group...ถือหุ้นทั้งหมด ได้ดำเนินการขายหุ้นที่ถืออยู่ในสัดส่วน 100% ใน บริษัท Boco Rock Wind Farm Pty Ltd BRWF ให้แก่ Tilt Renewables เสร็จสมบูรณ์แล้ว ในวันที่ 7 มีนาคม 2568 เป็นผลให้ EGCO Group สิ้นสุดการเป็นผู้ถือหุ้นของ BRWF...โดย BRWF ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลม Boco Rock กำลังผลิต 113 เมกะวัตต์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย...ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า การขายหุ้นทั้งหมดในโรงไฟฟ้าพลังงานลม Boco Rock เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Triple P” ด้านการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยนโยบายการบริหารสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ (Asset Recycling) และนำเงินที่ได้จากการขายไปลงทุนใหม่ ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว...อย่างไรก็ตาม EGCO Group ยังคงเดินหน้าเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพื่อบรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ของกำลังผลิตทั้งหมด ภายในปี 2573...
ll กระทรวงพลังงาน...เตรียมเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบ 25 จำนวน 9 แปลงบนบก...และยังคงให้สิทธิ์ศึกษาข้อมูลธรณีวิทยาในห้อง Data room ถึง 30 มิ.ย. 2568 ก่อนจะเปิดให้ยื่นซองข้อเสนอ 1-16 ก.ค. 2568...ซึ่งว่าคาดรู้ผลผู้ชนะแหล่งสัมปทานไตรมาส 4 ปี 2568...และเตรียมเปิดสำรวจรอบที่ 26 ฝั่งทะเลอันดามันปลายปี 2568 ต่อเนื่อง...โดย 9 แปลงบนบกครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 7 แปลง บริเวณ จังหวัดหนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ ซึ่งส่วนใหญ่มีศักยภาพด้านก๊าซธรรมชาติ และพื้นที่ภาคกลาง 2 แปลงบริเวณจังหวัด เพชรบูรณ์ ลพบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม และสุพรรณบุรี ส่วนใหญ่มีศักยภาพด้านน้ำมัน รวมขนาดพื้นที่ 33,444.64 ตารางกิโลเมตร โดยคาดว่าจะเกิดการลงทุนในครั้งนี้ประมาณ 2 พันล้านบาท...ด้าน นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า...ปี 2567 ที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ถึง 36,792 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นถึง 6% เมื่อเทียบกับปี 2566 เนื่องจากการเติบโตของการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ถึง 94 ลำเรือ สูงสุดเป็นประวัติการณ์…และคาดว่าปี 2568 นี้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะใกล้เคียงกับปี 2567เนื่องจากปัจจัยด้านการใช้รถ EV, สภาพอากาศที่ร้อน และความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม Data Center เป็นต้น ดังนั้นไทยจะต้องเตรียมพร้อมด้านปิโตรเลียมเพื่อรองรับการใช้พลังงานที่มากขึ้น สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เศรษฐกิจและการแข่งขันให้ภาคอุตสาหกรรมต่อไป...
ll สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง...ได้ลงนามเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2568 ประกาศ “การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)” โดยกำหนดเปลี่ยนแปลงเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในบัญชี LPG ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป...สำหรับประกาศดังกล่าวได้กำหนดให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ผลิตในประเทศเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง ในอัตรา 6.2472 บาทต่อกิโลกรัม โดยปรับลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ 7.2734 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวมถึง LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และ LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯของ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย...บริษัท ยูเอซี โกลบอลฯส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตรา 4.6991 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 5.7253 บาทต่อกิโลกรัม...พร้อมกันนี้ได้ปรับเงินชดเชยราคา LPG ลดลงเหลือ 2.4190 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมชดเชยอยู่ 3.4452 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวม LPG จากการแยกก๊าซฯ ที่ซื้อหรือได้จากรัฐ ผู้รับสัมปทาน หรือผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) โดยโรงแยกก๊าซฯ ของบริษัท ปตท. สผ.สยาม จำกัดโดยราคาขายปลีก LPG ยังคงเท่าเดิมที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม...รวมทั้งกำหนดเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ซื้อหรือได้มาจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ. สยามจำกัด ในอัตรา 4.6671 บาทต่อกิโลกรัม...ส่วนกรณี LPG ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนฯ แล้วให้ส่งเงินชดเชยคืนกองทุนฯ 2.4190 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 3.4452 บาทต่อกิโลกรัม...สำหรับปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯในบัญชี LPG โดยภาพรวมยังติดลบอยู่ -46,264 ล้านบาท โดย กบน. กำหนดกรอบวงเงินสำหรับอุดหนุนราคา LPG ได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินไหลเข้าจาก LPG 49.84 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 1,495 ล้านบาทต่อเดือน) ขณะที่ราคา LPG โลกเดือน มี.ค. 2568 อยู่ที่ระดับ 610 เหรียญสหรัฐต่อตัน...ll
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี