‘พาณิชย์’ ชี้เป้าไทยขายโกโก้จีน หลังความต้องการพุ่ง

‘พาณิชย์’ ชี้เป้าไทยขายโกโก้จีน หลังความต้องการพุ่ง

วันจันทร์ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568, 09.45 น.

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยจีนมีความต้องการหาแหล่งซื้อโกโก้ใหม่ เพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้น และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว ระบุไทยมีโอกาสขาย เหตุเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ภาครัฐส่งเสริม แนะต้องคุมคุณภาพ มาตรฐาน มั่นใจไม่เพียงแต่จะขายจีนได้เพิ่มขึ้น แต่ยังส่งออกไปตลาดโลกได้ด้วย

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวนันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงกรณีที่จีนมีความต้องการหาแหล่งผลิตโกโก้แห่งใหม่ เพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้น จากราคาโกโก้ตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ไทย จะส่งออกโกโก้ไปยังตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น


โดยทูตพาณิชย์รายงานข้อมูลสนับสนุนโอกาสดังกล่าว ว่า ขณะนี้ราคาโกโก้กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่ปลายปี 2022 เป็นต้นมา ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโกโก้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยเดือนเมษายน 2024 ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโกโก้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทั้งที่ปลายปี 2022 ราคายังอยู่ที่เพียง 2,500 เหรียญสหรัฐ/ตันแม้ว่าในภายหลังจะมีการปรับราคาลงมาอยู่ที่ 7,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ข้อมูลในเดือนธันวาคม 2024 ระบุว่าราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโกโก้ได้ทะลุระดับ 10,000 ดอลลาร์อีกครั้ง

ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลจาก Global Trade Atlas ในส่วนของโกโก้และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง พบว่า ในปี 2024 จีนมีมูลค่าการนำเข้ารวมอยู่ที่ 1,335.52 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.29% โดยนำเข้าหลักจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ อิตาลี และเบลเยียม มีมูลค่าการนำเข้า 258.02 , 204.15 , 136.17 , 135.81 และ 80.38 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ โดยในปี2024 ไทยจัดอยู่ในลำดับที่ 28 มีมูลค่าอยู่ที่ 4.86 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 0.36% ของมูลค่าที่จีนนำเข้าจากทั่วโลก

ส่วนการนำเข้าเมล็ดโกโก้ ทั้งเมล็ดหรือแตก และโกโก้ดิบหรือคั่ว ปริมาณ 11,069.11 ตัน ลดลง 20.80% โดยนำเข้าจากประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ มีมูลค่าการนำเข้า 72.34 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 86.92% โดยนำเข้าจาก 5 ประเทศหลัก ได้แก่ เอกวาดอร์ ปาปัวนิวกินี โตโก กินี และกานา มีมูลค่า 20.79 , 20.71 , 19.78 , 6.19 และ 3.59 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ มีสัดส่วนการนำเข้าอยู่ที่ร้อยละ 28.74  ,28.63 , 27.35 , 8.56 และ 4.97 ตามลำดับ ส่วนไทยอยู่ในลำดับที่ 8 มีมูลค่าที่จีนนำเข้าอยู่ที่ 194,396 เหรียญสหรัฐ สัดส่วน 0.27% ของจีนนำเข้าจากทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม มีรายงานอีกว่าการนำเข้าโกโก้และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนต่อโกโก้กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าตลาดโกโก้และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในจีนจะเริ่มต้นช้ากว่าประเทศอื่น ๆ แต่ปัจจุบัน โกโก้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่างแพร่หลาย เดิมทีช็อกโกแลตถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักของการใช้โกโก้ แต่การบริโภคช็อกโกแลตในจีนคิดเป็นเพียงหนึ่งในสามของการใช้โกโก้ทั้งหมด ขณะที่อีกสองในสามถูกใช้ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เช่น เบเกอรี ชานมสมัยใหม่ ไอศกรีม และเครื่องดื่มจากนม เป็นต้น ทำให้ผู้ผลิตในจีน มองหาแหล่งการผลิตโกโก้ใหม่ ผลักดันการเพาะปลูกในประเทศ เช่น มณฑลไหหลำ ยูนนาน และสิบสองปันนา รวมไปถึงการหาวัตถุดิบทดแทน เพื่อกระจายความเสี่ยงในการพึ่งพาแหล่งวัตถุดิบเดียว โดยบรรดาแบรนด์ช็อกโกแลตเริ่มให้ความร่วมมือกับซัปพลายเออร์โกโก้จากหลากหลายภูมิภาค

“จากความต้องการโกโก้ในตลาดจีนที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นโอกาสของไทยในการส่งออกโกโก้และผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันไทยเป็นแหล่งปลูกที่มีศักยภาพ มีสภาพอากาศเอื้อต่อการปลูก เนื่องจากโกโก้เป็นพืชเขตร้อน และยังมีการสนับสนุนจากภาครัฐให้โกโก้เป็นพืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต การพัฒนาให้ความรู้เครือข่ายเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพโกโก้ การพัฒนามาตรฐานสินค้า เช่น GMP และ HACCP เพื่อการส่งออก รวมถึงกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ จะช่วยผลักดันและสร้างศักยภาพให้กับโกโก้ไทย เป็นที่รับรู้มากขึ้นในตลาดโลก และเพิ่มโอกาสส่งออก ไม่เพียงแต่ตลาดจีนแต่จะส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ ได้ทั่วโลก”นางสาวสุนันทากล่าว

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top