กนอ. ผนึก อารยะ แลนด์ฯ ผุดนิคมฯรับอุตฯแห่งอนาคต

กนอ. ผนึก อารยะ แลนด์ฯ ผุดนิคมฯรับอุตฯแห่งอนาคต

วันพฤหัสบดี ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568, 14.04 น.

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ร่วมกับบริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศครบวงจร บนพื้นที่ 1,891 ไร่ ของ “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” บริเวณกิโลเมตรที่ 32 ถนนบางนา-ตราด ตำบลบางพลีน้อยและตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 73 ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. โดยตั้งเป้าหมายดึงดูดเมกะโปรเจกต์ลงทุน สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่จะผลักดันอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ(GDP) ประเทศให้เติบโตอีก 1% หรือเพิ่มขึ้นกว่า 180,000 ล้านบาท ผ่านการลงทุนภาคอุตสาหกรรมโดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐ

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ.รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่าการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอารยะฯ เป็นการ่วมทุนของผู้ลงทุนพัฒนาสาธารณูปโภคระหว่าง 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และบริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด หรือเอเชีย อินดัสเตรียล เอสเตท ที่มีแนวคิดพัฒนาระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. โดยโรงงานที่ตั้งในนิคมจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการลงทุนตามนโยบายรัฐ


“โครงการดังกล่าวน่าจะเป็นโครงการบนที่ดินสีม่วงแปลงใหญ่แปลงสุดท้ายที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ มีความพร้อมจ้างงานกว่า 14,560 อัตรา คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 52,000 ล้านบาท นอกจากนี้ในปี 2568 กนอ. ยังตั้งเป้าจะอนุมัติขาย/ให้เช่าพื้นที่รวมสะสมทั้งสิ้น 50,000 ไร่ จากปัจจุบันมีพื้นที่อนุมัติไปแล้วเกือบ 20,000 ไร่ โดยอาศัยการพัฒนาแผนดำเนินงานของ กนอ. ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้เนื่องจากล่าสุดยังมีพื้นที่ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการอนุมัติอีกกว่า 40 แปลง รวมถึงแผนพัฒนาพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีรองรับการลงทุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ล่าสุดขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีก 1 จังหวัด จากเดิมมี 3 จังหวัด เป็น 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่เข้ามาช่วยพัฒนาเป้าหมายของ กนอ. ได้“นายสุเมธ กล่าว

น.ส.กมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด กล่าวว่า โครงการอารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ พัฒนาภายใต้แนวคิด Industrial Tech Ecosystem ระบบนิเวศด้านอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบุกเบิกระบบนิเวศแห่งนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีขั้นสูง และโลจิสติกส์แบบครบวงจร ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ในไทย บนที่ดินสีม่วงขนาดใหญ่ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร รวมถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเชื่อมต่อสู่มอเตอร์เวย์ไปยังพื้นที่อีอีซีได้สะดวก

อีกทั้งยังมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุน ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดบริษัทชั้นนำจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป การพัฒนาโครงการนี้สอดคล้องกับความต้องการที่ดินอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทข้ามชาติ และการอนุมัติจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของ กนอ. ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน และรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต

“ขณะนี้นิคมอารยะได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง สามารถดึงดูดบริษัทชั้นนำจากหลากหลายภาคส่วนที่ต้องการที่ดินอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากบริษัทข้ามชาติทั้งจีน ไต้หวัน ยุโรป รวมถึงบริษัทต่างชาติที่มีการลงทุนในไทยอยู่แล้ว และต้องการขยายพื้นที่เพิ่มเติมด้วย โดยที่ผ่านมามีกลุ่มลูกค้าสนใจเข้ามาดูพื้นที่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งเซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ยาและเวชภัณฑ์ โลจิสติกส์ และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งคาดว่านิคมฯจะพัฒนาแล้วเสร็จปลายปีนี้ โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) โดยเห็นความชัดเจนของการลงทุนช่วงต้นปีหน้า"น.ส.กมลกาญจน์ กล่าว

- 030 

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top