นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า แฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 300,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15-20% ต่อปี การพัฒนาศักยภาพธุรกิจแฟรนไชส์รายใหม่ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากลเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง เป็นแหล่งสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ของประเทศ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 กรมฯได้จัดกิจกรรม “ยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์(Franchise Standard)” ภายใต้แนวคิด Next Gen Franchise : ยกระดับมาตรฐาน สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างมืออาชีพ เพื่อยกระดับธุรกิจของคนไทย โดยใช้ระบบแฟรนไชส์เป็นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเชิญผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำระดับประเทศ 4 ราย มาร่วมเสวนาพิเศษเรื่อง “พลิกเกมธุรกิจแฟรนไชส์ไทย เพิ่มกำไร สร้างเครือข่ายด้วยนวัตกรรม” พร้อมแนะนำการปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้จะเป็นกุญแจในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพิ่มกำไร และสร้างเครือข่ายธุรกิจแฟรนไชส์ที่เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้กรมฯยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านการเงินในการสนับสนุนธุรกิจแฟรนไชส์ให้สามารถเข้าถึงบริการด้านการเงิน โดยร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ให้สิทธิพิเศษด้านสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการตรวจประเมินจากโครงการ Franchise Standard ของกรมฯทุกรุ่น รวมถึงธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีธุรกิจที่ผ่านการตรวจประเมิน 50 ราย และยังได้ร่วมกับโลตัสและบิ๊กซี ในการสนับสนุนสิทธิเศษด้านทำเลการค้า เพื่อให้ธุรกิจแฟรนไชส์สามารถเริ่มต้นประกอบธุรกิจได้อย่างครบวงจร
“มาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์เป็นแนวทางและเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นเพื่อประเมินและยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ และความสามารถในการเข้าถึงแหล่งทุน เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของแฟรนไชส์(Franchisor) และผู้ซื้อแฟรนไชส์ (Franchisee) เพื่อสร้างความมั่นใจในระบบและนำไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน”
โดยปัจจุบันมีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ(Franchise Standard) 545 ราย แบ่งตามประเภทธุรกิจได้ดังนี้ ธุรกิจอาหาร 248 ราย คิดเป็น 46% ธุรกิจเครื่องดื่ม 106 ราย คิดเป็น 19% ธุรกิจการศึกษา 68 ราย คิดเป็น 13% บริการ 66 ราย คิดเป็น 12% ธุรกิจค้าปลีก 33 ราย คิดเป็น 6% ธุรกิจความงามและสปา 24 ราย คิดเป็น 4%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี