นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเตรียมย้ายที่ทำการจากศูนย์ราชการ อาคาร B ไปยังศูนย์ราชการอาคารโซน C ภายในวันที่ 6 มิถุนายน 2568 โดยมีเหตุผลของการย้ายเนื่องจากสัญญาเช่าเดิมกำลังจะสิ้นสุดลง

แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงดีอี กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว จากการตรวจสอบความพร้อมของอาคารโซน C พบว่ามีปัญหาหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการของกระทรวงฯ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนผู้มารับบริการ เช่น ระบบสำนักงานและโครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อม รวมถึงอินเทอร์เน็ต ระบบรักษาความปลอดภัย การเดินเอกสาร และระบบสารสนเทศบางส่วนยังไม่แล้วเสร็จ

นอกจากนี้สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เนื่องจากยังพบปัญหาเรื่องฝุ่น เชื้อรา ความสะอาดของพื้นที่ และร้านอาหารภายในอาคารยังไม่พร้อมให้บริการ อีกทั้งข้อกังวลของหน่วยงานข้างเคียง ที่มีความกังวลจากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่อยู่ใกล้เคียงว่า พื้นที่จอดรถและโรงอาหารอาจถูกแย่งใช้ ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยและญาติ

ทั้งนี้หน่วยงานภายในกระทรวงฯยังไม่มีความพร้อม ทั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต่างยังไม่มีแผนย้ายที่ชัดเจน และยังมีภารกิจเกี่ยวกับการให้บริการประชาชนอยู่ในจุดเดิม ยิ่งไปกว่านั้น การย้ายเร่งด่วนในช่วงเวลานี้ อาจส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2569 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยหากมีความคลาดเคลื่อน อาจทำให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือเกิดความล่าช้าในการเสนอของบประมาณภาครัฐ

แหล่งข่าวในรัฐบาล กล่าวว่า การกำหนดวันย้ายในวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งเป็น “ภูมิปาโลฤกษ์” อาจมีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับ “ความเชื่อเรื่องดวง” มากกว่าประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการ ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีในระยะใกล้นี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายแนะชะลอย้าย-เน้นการบริหารที่มีระบบ

ทั้งนี้การย้ายที่ทำการกระทรวงดีอีอย่างเร่งรีบในขณะที่ยังไม่มีความพร้อมเพียงพอ อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะในเรื่องการสื่อสารกับประชาชน ซึ่งยังไม่มีการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นระบบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสถานที่ให้บริการ ช่องทางติดต่อใหม่ ระบบรับรองการทำงานของเจ้าหน้าที่ และการประสานงานกับหน่วยงานอื่นภายในพื้นที่

อย่างไรก็ดีแม้ความเชื่อเรื่องฤกษ์ดี อาจมีความหมายในบางแง่มุม แต่ในบริบทของการบริหารราชการแผ่นดิน ความพร้อมของระบบ โครงสร้าง และบุคลากร ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ การย้ายกระทรวงฯในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยภารกิจสำคัญ เช่น การจัดงบประมาณ การดำเนินนโยบายดิจิทัลระดับชาติ และการปฏิรูปรัฐบาลดิจิทัล จึงควรคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประสิทธิภาพของการทำงานเป็นหลัก เพราะสิ่งที่มั่นคงกว่าฤกษ์ คือ การบริหารอย่างรอบคอบ และรับผิดชอบต่อประชาชน

-033