นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ กรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รักษาการในตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการ กนอ.เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่ง กนอ.ได้ติดตามเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เกิดน้ำท่วมขังบางจุดพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยเฉพาะในซอย 12, 13, 14B และนิคมฯ บางปูฝั่งเหนือ ที่มีระดับน้ำท่วมสูงบนถนนบางช่วงถึง 30 เซนติเมตร กระทบต่อการสัญจรของรถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการระบายน้ำจนคลี่คลาย และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม ขณะที่เขตส่งออกของนิคมฯ ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากที่ผ่านมา กนอ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการขุดลอกและปรับปรุงระบบคลอง ลำรางใหม่ ทำให้ระบบระบายน้ำสามารถรับมือกับปริมาณฝนที่ตกลงมาได้

โดยนิคมฯ บางปู ได้ดำเนินมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีกำลังการสูบน้ำรวม 89,800 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และเพิ่มขีดความสามารถเป็น 101,140 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ด้วยการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงรถสูบน้ำระยะไกล 2 คัน และเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ นอกจากนี้ ยังมีการบริหารจัดการน้ำเชิงรุกภายในนิคมฯบางปู เช่น การขุดลอกรางระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ และการพร่องน้ำในบ่อรับน้ำฝนให้ต่ำอยู่เสมอ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับปริมาณฝนที่ตกลงมา

กนอ. ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยมีการตั้งคณะทำงานเพื่อบูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วมนิคมฯบางปูและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำแผนงานและบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการประสานงานกับกรมชลประทานในการควบคุมระดับน้ำในคลองชายทะเลให้ต่ำอยู่เสมอ และการขุดลอกกำจัดวัชพืชในคูคลอง และเพื่อการติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนผู้ประกอบการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นิคมฯ บางปูยังได้นำระบบเฝ้าระวังอัจฉริยะมาใช้ โดยมีการติดตั้งระบบ CCTV และระบบควบคุมด้วย SCADA รวมถึงระบบตรวจวัดปริมาณน้ำฝนอัตโนมัติ

สำหรับแผนระยะยาวในการป้องกันน้ำท่วม โครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมโซน 1 และ 2 ซึ่งมีความสูง +1.90 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และมีความยาวรวม 5.65 กิโลเมตร ถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยขณะนี้มีความคืบหน้าของงานก่อสร้างสะสมอยู่ที่ 27.30% และกำลังเร่งรัดการดำเนินงานอย่างเต็มที่

“ผม ได้กำชับให้นิคมฯ ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เตรียมความพร้อมระบบป้องกันน้ำท่วม ตรวจสอบเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน รวมถึงการจัดหาเครื่องสูบน้ำสำรอง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง กระสอบทราย และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเวรตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งประสานงานกับกรมชลประทานและติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นายธนวัฒน์กล่าว

-031