นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์  หรือ ASW กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568  บริษัทมียอดขาย 12,957 ล้านบาท เติบโตขึ้น 21% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคิดเป็น 66% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีซึ่งตั้งไว้ที่ 19,500 ล้านบาท

ช่วงครึ่งแรกปี 2568 บริษัทเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่า 10,700 ล้านบาท โครงการที่ทำยอดขายโดดเด่น คือกลุ่ม Leisure Residences ในภูเก็ตที่พัฒนาโดยบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ได้แก่ โครงการเดอะ ไทเทิล วิลล่า เอสเตลลา ในยาง ลักชัวรีวิลล่าที่ Sold Out 100% ปิดการขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 เดือน โครงการเดอะ คาตาเบลโล ลักชัวรีคอนโดมิเนียมบนทำเลกะตะทำยอดขายแล้ว 56% และโครงการอะดอร่า ราไวย์ ลักชัวรีคอนโดมิเนียมใกล้หาดราไวย์มียอดจองแล้วกว่า 50% ส่วนโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลอย่างโครงการเคฟ เพลย์กราวด์ พรีแคมปัสคอนโดตรงข้าม รร.บดินทรเดชาฯ และโครงการแอทโมซ เดอ โซล  คอนโดมิเนียม Low-rise ใกล้สถานีทิพวัล ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเช่นกัน

สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในครึ่งปีหลังยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ สถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.75% การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ให้กู้ได้เต็ม 100% ในทุกราคาทุกสัญญา และการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 จึงเป็นโอกาสในการระบายสต๊อกโครงการพร้อมอยู่ (Ready to Move) ที่โอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที และถือเป็นจังหวะดีของผู้ที่พร้อมซื้อที่อยู่อาศัยให้เป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น

ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 9,968 ล้านบาท โดยกว่า 90% ของมูลค่าโครงการพร้อมอยู่ทั้งหมด เป็นกลุ่มราคา 1-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถใช้สิทธิประโยชน์จากมาตรการรัฐได้เต็มที่

การขับเคลื่อนยอดขายในครึ่งปีหลังเราให้ความสำคัญ 2 ด้าน คือ 1.บริหารจัดการโครงการพร้อมอยู่ โดยจัดแคมเปญทางการตลาด ร่วมกับพันธมิตรทางการเงินให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น และบริการจัดหาผู้เช่าอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน  2.เปิดโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพ ที่มีความต้องการซื้ออย่างชัดเจนจากกลุ่มซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุน ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงภูเก็ต เชื่อว่าจะช่วยผลักดันยอดขายรวมของ ASW ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 19,500 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้