นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าจากมุมมองการลงทุนที่ SCB CIO ได้แลกเปลี่ยนกับ BlackRock ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลก ได้สรุปแนวทางการลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่

แนวทางแรก คือ การลงทุนที่ตอบสนองสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ความจำเป็นของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนจากนักลงทุนต่างชาติ

แนวทางที่สอง คือ การลงทุนท่ามกลางภาวะเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคที่ลดลง เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เปิดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (alpha) ได้มากกว่าช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยจำเป็นต้องบริหารพอร์ตเชิงรุกมากขึ้น

แนวทางสุดท้าย คือ การลงทุนที่เน้นแรงขับเคลื่อนในโครงสร้างระยะยาว  แม้แนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่ Mega forces ยังสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว

หากพิจารณาทั้ง 3 แนวทางร่วมกัน จะพบว่ากรอบแนวคิดของ BlackRock มุ่งเน้นให้นักลงทุนยังคง Stay Invested แทนที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหรือรอให้ความแน่นอนกลับคืนมา โดยเน้นไปที่การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดและเจาะลึก

SCB CIO มีมุมมองที่สอดคล้องกับ BlackRock โดยให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ บนพอร์ตหลัก ระยะยาว และแนะนำลงทุนดัชนี Nasdaq 100 และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก ที่เน้นธีม AI จากกระแส AI ที่จะช่วยหนุนศักยภาพการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน และแนะนำลงทุนตลาดหุ้นจีน H-Share ทั้งพอร์ตหลัก และพอร์ตเสริม จากกำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดหุ้นจีนที่มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง รับแรงหนุนมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม และความคืบหน้าของกระแส AI ในจีน

ตลาดหุ้นอื่นๆ แนะนำลงทุนระยะยาว ได้แก่ ตลาดหุ้นยุโรป ตามแรงหนุนบนนโยบายการคลัง จากการเร่งเพิ่มรายจ่ายภาครัฐ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตามการปฏิรูปธรรมาภิบาลที่ยังมีความคืบหน้า และตลาดหุ้นอินเดีย ที่ได้แรงหนุนจาก EPS ที่มีแนวโน้มเติบโตดี และแนะนำลงทุน ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ บนพอร์ตเสริม จาก Valuation ยังถูกเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่