** บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (4-8 ส.ค.68)…โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนเนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่อาจตึงตัว เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศลดกรอบเวลาสำหรับรัสเซียและยูเครนในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง เหลือเพียง 10-12 วัน พร้อมขู่จะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้ารัสเซียสูงขึ้นหากไร้ความคืบหน้าในการเจรจา ขณะเดียวกันตลาดยังเฝ้าจับตาผลกระทบจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ โดยการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนมีความคืบหน้า เนื่องจาดทั้งสองฝ่ายตกลงขยายเวลาผ่อนผันมาตรการภาษีตอบโต้ แม้จะยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอน อย่างไรก็ตามตลาดได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เติบโตเกินคาด ประกอบกับเฟดที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% เพื่อชะลอแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ทางด้านฝั่งอุปทาน ตลาดจับตามองความเคลื่อนไหวของโอเปกพลัสในการตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมกลุ่มในวันที่ 3 ส.ค.นี้…ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 64-74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 67-77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…

** บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) จับมือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ร่วมกันยกระดับการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน เปิดตัว “ESG Asset Enhancement Program” การบริหารจัดการเงินลงทุนภายใต้แนวคิด ESG (Environmental, Social and Governance) เพื่อเปิดโอกาสให้ ปตท.สามารถกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆที่ธนาคารจัดเตรียมไว้รองรับ และมอบผลตอบแทนพิเศษเพิ่มเติมจากอัตราผลตอบแทนตลาดแก่ ปตท. ภายในกรอบเวลาที่ตกลงร่วมกัน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการดำเนินงานของ ปตท. ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงและทางอ้อม ไม่เกิน 11.5 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า โดยมีวงเงินลงทุนรวม 20,000 ล้านบาทตลอดอายุโครงการ…

** การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ....ร่วมมือในข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้าสำหรับอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียวแบบไม่เจาะจงแหล่งที่มา Utility Green Tariff 1 (UGT1)...โดยเนสท์เล่ได้นำไฟฟ้าสีเขียวจากพลังงานหมุนเวียนมาใช้กับโรงงานเนสท์เล่ จำนวน 6 โรงงาน ได้แก่ โรงงานผลิตเนสท์เล่ไอศกรีม บางชัน โรงงานผลิตครีมเทียม บางปู โรงงานผลิตน้ำดื่ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมไปถึงโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ในจังหวัดระยอง 2 แห่ง…

** สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)... พิจารณาข้อเสนอการปรับค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (ค่า Ft) ประจำเดือน กันยายน-ธันวาคม 2568 ตามข้อเสนอของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยในครั้งแรกเสนอหน่วยละ 3.98 บาท โดยคืนเงินค่าภาระต้นทุนคงค้าง (ค่า AF) ให้กับ กฟผ. 7,072 ล้านบาท แต่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนนั้น กฟผ. เสนอขอปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าเป็นหน่วยละ 3.95 บาท โดยขอให้ กกพ. นำเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินที่อยู่กับ กฟผ. ประมาณ 4,900 ล้านบาท มาลดค่าไฟฟ้าและภาระหนี้ของ กฟผ. เพิ่มเติมในรอบนี้ด้วย…อย่างไรก็ตาม กกพ. ยังแสดงความห่วงใยกรณีราคาก๊าซธรรมชาติตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี เนื่องจากความต้องการใช้ก๊าซที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวของสหภาพยุโรปและปัญหาจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าปรับสูงขึ้นจากค่าประมาณการ...

** กระทรวงพลังงาน  เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน “Gastech 2026” สุดยอดงานประชุมและจัดแสดงเทคโนโลยีนานาชาติด้านก๊าซธรรมชาติ LNG พลังงานไฮโดรเจน เทคโนโลยีภูมิอากาศ และปัญญาประดิษฐ์ ระหว่างวันที่ 15-18 ก.ย. 2569 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค (BITEC)…โดยการจัดงาน Gastech ในครั้งนี้ นับเป็นการกลับมาจัดงานในภูมิภาคเอเชียอีกครั้งในรอบ 3 ปี และเป็นการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยกระทรวงพลังงานได้วางเป้าหมายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานสะอาดของภูมิภาค....และการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน และภาคเอกชนด้านพลังงาน รวมทั้งสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB…ทั้งนี้งานดังกล่าวถือเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้เชิญชวนนักลงทุนและให้ข้อมูลด้านการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมฝั่งทะเลอันดามันของไทย ซึ่งจะจัดบล็อคการเปิดสำรวจในทะเลน้ำลึก ที่ผ่านมาหลายประเทศต่างก็ให้ความสนใจ นอกจากนี้ไทยก็จะมีโอกาสให้ข้อมูลด้านความพร้อมของพลังงานทดแทน เพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียว อีกด้วย...สำหรับงาน Gastech 2026 เป็นเวทีด้านพลังงานสำคัญระดับโลกในการส่งเสริมความร่วมมือและการเจรจาด้านพลังงานระดับนานาชาติ ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 50,000 คน ผู้แสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย และวิทยากรที่เชี่ยวชาญกว่า 1,000 ท่านจากทั่วโลก ที่จะมาร่วมถ่ายทอดมุมมองที่หลากหลายจากทุกภูมิภาคเพื่อผลักดันความร่วมมือ เสนอแนะนโยบาย และแนวทางการก้าวสู่ยุคสมัยใหม่แห่งการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงาน ทั้งในเอเชียและในระดับโลก โดยคาดว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศได้ประมาณ 3,900 ล้านบาท...**

** กระบองเพชร**