วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
Funding Societies เร่งเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการไทย ชี้การฟื้นวงจรเศรษฐกิจในประเทศต้องเริ่มที่ SME

Funding Societies เร่งเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการไทย ชี้การฟื้นวงจรเศรษฐกิจในประเทศต้องเริ่มที่ SME

วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 10.29 น.
Tag : ผู้ประกอบการไทย เศรษฐกิจ สภาพคล่อง FundingSocieties SME
  •  

Funding Societies เร่งเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการไทย ชี้การฟื้นวงจรเศรษฐกิจในประเทศต้องเริ่มที่ SME

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจอีกครั้งในครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2568 ท่ามกลางแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงซบเซา ทั้งการส่งออกที่ชะลอตัวอย่างยาวนาน ภาคการท่องเที่ยวยังไม่กลับสู่ศักยภาพเต็มที่ และสัญญาณเงินฝืดที่จะเริ่มเด่นชัดมากขึ้นหลังไตรมาส 3 เป็นต้นไป


ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) กำลังเผชิญผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งจากยอดขายที่ลดลง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ถดถอย และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินที่ยากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ยิ่งซ้ำเติมความท้าทายที่ต้องรับมือ และในส่วนสถานการณ์ในบางพื้นที่ชายแดนแม้จะเริ่มผ่อนคลายลง แต่ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ เนื่องจากผลกระทบต่อเอสเอ็มอี โดยเฉพาะในจังหวัดใกล้ชายแดน ที่ยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจน

ในเวลาเดียวกัน ผู้ประกอบการไทยยังต้องเผชิญการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจากสินค้านำเข้าต้นทุนต่ำ ซึ่งเป็นผลจากภาวะอุปทานล้นตลาดในระดับโลก การประกาศของสหรัฐอเมริกาในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 19% แม้จะช่วยลดความเสียเปรียบด้านราคาลง แต่ยังอาจไม่เพียงพอในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าบางกลุ่มที่เคยเลือกไทยเป็นซัพพลายเออร์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสำคัญที่ก่อนหน้านี้ได้เปรียบด้านภาษีมากกว่า เช่น อิเล็กทรอนิกส์ (เดิม 0-2%) ยานยนต์และชิ้นส่วน (เดิม 2.5%) สินค้าเกษตร (เดิม 2-5%) และ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (เดิม 8-12%) เนื่องจากหลายรายหันไปใช้เวียดนามและอินโดนีเซียที่ก่อนหน้านี้และได้รับมาตรการจูงใจด้านภาษีภายในประเทศเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติให้ตั้งฐานการผลิตเพื่อส่งออก อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงในซัพพลายเชนทั่วโลกครั้งนี้อาจทำให้การฟื้นตัวของส่วนแบ่งตลาดไทยในตลาดสหรัฐฯ ช้ากว่าที่คาด เนื่องจากต้องใช้เวลาในการกลับเข้าตลาดและสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับลูกค้าเดิม

ธนาคารโลกได้ปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของ GDP ของไทยลงเหลือเพียง 1.8% ในปี พ.ศ. 2568 และ 1.7% ในปี พ.ศ. 2569* ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนแรงกดดันเชิงโครงสร้างที่ผลักดันให้ธุรกิจไทยต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน

ในมุมมองของ Funding Societies ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลสำหรับ SME ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ให้บริการ Non-Bank รายสำคัญในไทย ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่อาจพึ่งพาแรงขับเคลื่อนจากภายนอกอย่างเดียวได้อีกต่อไป การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องเริ่มจากภายใน โดยการฟื้นวงจรเศรษฐกิจในประเทศ และการเสริมพลังให้ผู้ประกอบการในประเทศซึ่งเป็นหัวใจหลักของการเติบโต

นายวิกาส เจน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Funding Societies ประเทศไทย กล่าว “เรามองว่าสถานการณ์ความผันผวนในครั้งนี้ คือบททดสอบความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจในประเทศ และ SME คือฟันเฟืองสำคัญที่ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเป็นกลไกสร้างรายได้และการจ้างงานในทุกภูมิภาค หากไม่มีการขับเคลื่อนของ SME เศรษฐกิจไทยย่อมไม่อาจฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์”

ภายใต้แรงกดดันจากภายนอก ผู้ประกอบการไทยยังเผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่นอกกระแสหลักหรือไม่มีหลักประกัน ทำให้การดำเนินธุรกิจต่อเนื่องเป็นไปได้ยากยิ่ง

อย่างไรก็ตาม Funding Societies ยังคงยืนหยัดในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ด้วยการเสนอทางเลือกทางการเงินที่เข้าถึงได้จริง และออกแบบให้เหมาะกับสภาพธุรกิจของ SME โดยพิจารณาจากผลประกอบการจริงและศักยภาพการเติบโต แทนที่จะใช้เกณฑ์แบบเดิมที่ตัดสินจากหลักทรัพย์ค้ำประกันเท่านั้น ทำให้ผู้ให้บริการสินเชื่อดิจิทัล Non-Bank กลายเป็น “กลไกเสริมสภาพคล่อง” สำคัญของระบบเศรษฐกิจในยามที่ตลาดต้องการมากที่สุด

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 Funding Societies ยังคงมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการเงินทุนหมุนเวียนในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น บริษัทคาดการณ์ว่าปริมาณการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะเติบโตมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พร้อมเตรียมอัดฉีดเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของ SME ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ การผลิต ค้าส่ง ค้าปลีก เทคโนโลยี สาธารณสุข และบริการทั่วไป

จนถึงปัจจุบัน Funding Societies ได้ปล่อยสินเชื่อแก่ SME ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้วกว่า 157,000 ล้านบาท และยังคงมุ่งขยายธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยรูปแบบสินเชื่อของ Funding Societies ที่ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ สินเชื่อระยะสั้นเพื่อธุรกิจ ซึ่งช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจในช่วงเวลาจำเป็น, สินเชื่อหมุนเวียนจากลูกหนี้การค้า และ สินเชื่อใบสั่งซื้อ สำหรับผู้ประกอบการที่รอรับชำระจากลูกค้าหรือมีคำสั่งซื้อในมือ ไปจนถึง สินเชื่อธุรกิจโครงการ ที่รองรับกิจการที่มีสัญญางานภาครัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลไลสินเชื่อเหล่านี้ช่วยตอบโจทย์ผู้ประกอบการในแต่ละช่วงวงจรธุรกิจ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่านการพิจารณาจากศักยภาพของธุรกิจเป็นหลัก มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ทำผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่ต้องมาที่สาขา 

“การให้สินเชื่อในช่วงเวลาที่ SME ต้องการมากที่สุด ก็เปรียบเสมือนการส่งออกซิเจนให้ธุรกิจได้หายใจในยามที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สถาบันการเงินเริ่มระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มที่อยู่นอกกระแสหรือไม่มีหลักประกัน” นายวิกาส เสริม

การมีบทบาทของผู้ให้บริการสินเชื่อดิจิทัล Non-Bank อย่าง Funding Societies จึงไม่ใช่เพียง “แหล่งเงินทุนทางเลือก” แต่เป็น “กลไกเสริมสภาพคล่อง” ให้กับภาคธุรกิจในเวลาที่ระบบเศรษฐกิจต้องการมากที่สุด โดยขับเคลื่อนด้วยมุมมองใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความเข้าใจผู้ประกอบการ มากกว่าการยึดติดกับสูตรสำเร็จหรือกรอบเดิมของระบบการเงินในอดีต ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fundingsocieties.co.th/

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • SCB WEALTH ชี้โอกาสลงทุนใหม่หลังภาษีทรัมป์เปลี่ยนเกมการค้าโลก SCB WEALTH ชี้โอกาสลงทุนใหม่หลังภาษีทรัมป์เปลี่ยนเกมการค้าโลก
  • เศรษฐกิจCLMVเติบโตลดลง หลัง‘การค้าโลก-ปัจจัยภายใน’กดดัน เศรษฐกิจCLMVเติบโตลดลง หลัง‘การค้าโลก-ปัจจัยภายใน’กดดัน
  • เศรษฐกิจ CLMV มีแนวโน้มชะลอตัว เศรษฐกิจ CLMV มีแนวโน้มชะลอตัว
  • บสย.ยกระดับสำนักงานเขต เพิ่มศักยภาพการช่วยเหลือเอสเอ็มอี บสย.ยกระดับสำนักงานเขต เพิ่มศักยภาพการช่วยเหลือเอสเอ็มอี
  • กรุงศรี เปิดตัวกองทุน KF-SINCOME-USD ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกด้วย USD กรุงศรี เปิดตัวกองทุน KF-SINCOME-USD ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกด้วย USD
  • เมย์แบงก์เจาะลึกตลาดหุ้นจีนผ่านสัมมนา  ‘Deep Dive China’ เมย์แบงก์เจาะลึกตลาดหุ้นจีนผ่านสัมมนา ‘Deep Dive China’
  •  

Breaking News

'อิ๊งค์'ยินดีสภาฯผ่าน พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ก้าวสำคัญของการคุ้มครอง-ส่งเสริมวิถีชีวิต

ฮือฮา!! 'จุรี นุ่มแก้ว' เปิดตัวลงสมัคร สส.เขต 2 สงขลา พรรคภูมิใจไทย

'พิชัย'เผยเจรจา'ภาษีสหรัฐฯ' ยังอยู่ระหว่างคุยรายละเอียด คาดเสร็จภายในเดือนนี้

'ศานนท์' โต้ปมงบฯห้องเรียนอนุบาล ยันไม่ได้เกินจริง เพียงเปิดเพิ่มรับเด็กเข้าสู่ระบบ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved