วันเสาร์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
‘ธุรกิจ-ผู้บริโภค’กังวล หลากปัจจัยลบทุบเศรษฐกิจไทยอ่วม

‘ธุรกิจ-ผู้บริโภค’กังวล หลากปัจจัยลบทุบเศรษฐกิจไทยอ่วม

วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ความเชื่อมั่น เศรษฐกิจ หอการค้าไทย
  •  

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย(ภาคธุรกิจ)เดือนกรกฎาคม 2568 ว่า ดัชนีปรับลดลงจากระดับ 46.7 เป็น 45.9 โดยยังคงมีสัญญาณปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 31 เดือน เนื่องจากภาคธุรกิจความกังวลต่อแนวทางนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และการตอบโต้ของประเทศต่างๆที่ได้รับผลกระทบของนโยบายทรัมป์ รวมถึงการเมืองไม่มีเสถียรภาพ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว รวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายไทย-กัมพูชาที่ส่งผลกับประชาชน รวมถึงการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนชายแดนที่ต้องหยุดชะงัก

ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน กรกฎาคม 2568 ดัชนีปรับตัวลดลงจากระดับ 52.7 เป็น 51.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 31 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา ซึ่งการที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า ค่าครองชีพสูง และมีปัญหาสงครามการค้า สงครามชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้ปรับลดลงได้อย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 45.6 ,49.8 และ 59.6 ตามลำดับ ปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนมิถุนายนที่อยู่ในระดับ 46.7 ,50.6 และ 60.9 ตามลำดับ การที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ และค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงจากสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง

 “ดัชนีทั้ง 2 รายการ ทั้งผู้บริโภค และภาคธุรกิจ ในเดือนกรกฎาคม ตกลงต่อเนื่อง และตกลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 31 เดือนทั้ง 2 รายการ เพราะทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจเอง กังวลปัญหา เสถียรภาพรัฐบาล สงครามการค้าจากนโยบาย Trump 2.0 และความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยซึมลงต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว 2 ครั้ง รวม 0.5% อยู่ที่ 1.75% แต่รู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นช้าและการเข้าถึงสินเชื่อลำบาก”นายธนวรรธน์ กล่าว

อย่างไรก็ตามในส่วนของภาคธุรกิจนั้น ดัชนีความเชื่อมั่นตกลงทุกภาคและมีค่าต่ำกว่า 50 ดังนั้นจึงเสนอให้ภาครัฐ เร่งดำเนินการในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ แผนการเจรจาต่อรองภาษีกับประเทศมหาอำนาจที่มีผลต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องในไทย และการรับมือกับการปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯอย่างเป็นรูปธรรม และการออกมาตรการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา รวมทั้งการบริหารจัดการการค้าชายแดน ,หามาตรการป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง,หามาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง มาตรการกระตุ้นที่สามารถเพิ่มยอดคำสั่งซื้อสินค้าและบริการในทุกสาขาธุรกิจ

นอกจากนี้ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการส่งออกและภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในภูมิภาคได้ รวมไปถึงออกมาตรการส่งเสริมช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังคงเป้าการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2568 นี้ไว้ที่ 1.5-2% หรือค่ากลางที่ 1.7%

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘พิชัย’ เปิด 6 แนวทางยกระดับขีดความสามารถนวัตกรรมไทย ‘พิชัย’ เปิด 6 แนวทางยกระดับขีดความสามารถนวัตกรรมไทย
  • SCB WEALTH ชี้โอกาสลงทุนใหม่หลังภาษีทรัมป์เปลี่ยนเกมการค้าโลก SCB WEALTH ชี้โอกาสลงทุนใหม่หลังภาษีทรัมป์เปลี่ยนเกมการค้าโลก
  • Funding Societies เร่งเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการไทย ชี้การฟื้นวงจรเศรษฐกิจในประเทศต้องเริ่มที่ SME Funding Societies เร่งเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการไทย ชี้การฟื้นวงจรเศรษฐกิจในประเทศต้องเริ่มที่ SME
  • เศรษฐกิจCLMVเติบโตลดลง หลัง‘การค้าโลก-ปัจจัยภายใน’กดดัน เศรษฐกิจCLMVเติบโตลดลง หลัง‘การค้าโลก-ปัจจัยภายใน’กดดัน
  • เศรษฐกิจ CLMV มีแนวโน้มชะลอตัว เศรษฐกิจ CLMV มีแนวโน้มชะลอตัว
  • กรุงศรี เปิดตัวกองทุน KF-SINCOME-USD ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกด้วย USD กรุงศรี เปิดตัวกองทุน KF-SINCOME-USD ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกด้วย USD
  •  

Breaking News

'มาริษ' แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ

'แพรรี่'เฉลยไวเกิ๊น! หนุ่มถ่ายคลิป'เปรตหลังค่อม'ตัวเท่าสะพาน ท้าพร้อมจ่าย1แสนถ้าถ่ายติดหน้ามาได้

คมนาคมเร่งแก้ปัญหา! ‘ถนนเนินช้างร้อง-เนินยาว’ เน้นมาตรการคุมเข้มรถบรรทุก

(คลิป) 2 ตัวแม่ เรียงคิวด่า ใส่ไม่ยั้ง! 'ป้ามาลี-ฮุนเซน-ฮุนมาเนต-ทักษิณ-อุ๊งอิ๊งค์-ช่อมาลี' ยับเยิน!!

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved