นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงการหารือกับดร. ตัน ซี เลง (Dr. Tan See Leng) รมว.แรงงาน และรมต.ผู้กำกับดูแลด้านพลังงานและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ว่าเป็นการฉลองความสัมพันธ์ครบ 60 ปี และจับมือกันเดินหน้าขยายความร่วมมือเศรษฐกิจ ผลักดันส่งออกข้าวและสินค้าเกษตรไทย หนุนเชื่อมโยงการค้าการลงทุนไทย-สิงคโปร์ เร่งเจรจากรอบเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนเสริมบทบาทภูมิภาคด้านดิจิทัล ส่งเสริมภาคธุรกิจในตลาดคาร์บอน
นายฉันทวิชญ์ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านเศรษฐกิจในระดับนโยบาย โดยเน้นการขยายฐานคู่ค้าใหม่ผ่านความตกลงการค้าเสรี และการปรับตัวให้ทันต่อบริบทการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและแข่งขันได้ในเวทีโลก ในโอกาสนี้สิงคโปร์เชิญไทยหารือการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อการลงทุนและการค้าแห่งอนาคตบนพื้นฐานกฎเกณฑ์พหุภาคี พร้อมกันนี้ไทยได้ผลักดันการส่งออกข้าวของไทยเพิ่มขึ้น รวมถึงข้าวเพื่อสุขภาพ อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าวสังข์หยดพร้อมได้ขอให้สิงคโปร์เร่งพิจารณารับรองแหล่งผลิตไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระและเนื้อสุกรของไทย เพื่อให้สามารถส่งออกสินค้าไปยังสิงคโปร์ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ ไทยและสิงคโปร์ต่างให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคเอกชนและผู้ประกอบการSME ในการดำเนินธุรกิจและสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่การผลิตโลก โดยกระทรวงพาณิชย์มีโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยร่วมกิจกรรมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับสิงคโปร์ พร้อมเชิญชวนสิงคโปร์เข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในไทย เช่น TILOG-LOGISTICX ระหว่างวันที่ 20-22 สิงหาคม 2568 และ Bangkok Gems and Jewelry Fair ระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน 2568 เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตร และจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย พร้อมขอบคุณสิงคโปร์ที่เลือกจัดการประชุม Singapore Regional Business Forum ครั้งที่ 9 ในไทยเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเสริมศักยภาพภาคธุรกิจในภูมิภาค ภายใต้แนวทางความยั่งยืน นวัตกรรมและการเชื่อมโยงเครือข่าย ที่กระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการเจรจากรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework Agreement: DEFA) โดยจะเป็นความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาคฉบับแรกของโลก ในโอกาสนี้ สิงคโปร์ขอบคุณไทยที่ร่วมผลักดันข้อตกลงความร่วมมือด้านคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์ ภายใต้ความตกลงปารีสจนสำเร็จ แม้จะเป็นข้อตกลงในระดับทวิภาคี แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยกลไกคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงในภูมิภาคอาเซียน ขยายโอกาสให้กับภาคธุรกิจเข้าถึงตลาดคาร์บอน
และสะท้อนถึงความร่วมมือเชิงรุกของสองประเทศในการแก้ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลักดันเศรษฐกิจสีเขียวในอาเซียนอย่างยั่งยืน
สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ในปี 2567 มีมูลค่ารวม 17,758.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออก 10,363.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้า 7,395.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยได้ดุลการค้า 2,968.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน) การค้ารวมมีมูลค่า 8,836.11ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวขึ้น 7.98% โดยไทยส่งออก 5,236.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.20% ขณะที่การนำเข้าจากสิงคโปร์มีมูลค่า 3,600.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1.04%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี