นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เรื่องนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 และคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น มองว่าการได้มาซึ่งนายกฯ และครม.คงต้องเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญและกติกาที่มีอยู่ ซึ่งที่สิ่งสำคัญอยู่ที่การคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับงาน มีคุณสมบัติที่ตรงกับหน้าที่ และมีความเข้าใจเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ต้องคัดทั้งคนดีและคนเก่งมาร่วมทำงาน และที่สำคัญต้องสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและประชาชน ซึ่งเป็นกุญแจหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้
ขณะที่ในส่วนของ ครม. ก็ควรเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมด้านต่างๆ เช่น การคลัง การลงทุน การค้าทั้งในและระหว่างประเทศ อุตสาหกรรม การศึกษา การพัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อให้การดำเนินนโยบายเชิงรับและเชิงรุกเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวให้ฟื้นขึ้น แก้ไขกฎหมายและปรับโครงสร้างภาษีให้ทันสมัย ไม่ซ้ำซ้อนรวมทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ที่เปราะบาง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของประเทศและเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย
ส่วนทีมเศรษฐกิจนั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวต้องการได้ดรีมทีมเศรษฐกิจที่แท้จริงที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทำงานเป็นทีม เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยที่ซบเซามานาน ให้กลับเข้าสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคได้อีกครั้ง และก้าวพ้นกับดักความยากจนได้อย่างมั่นคง โดยดรีมทีมควรมาจากพรรคเดียวกัน ภายใต้การนำเดียวกัน เพื่อทำงานได้อย่างสอดคล้อง หากเป็นทีมที่มาจากต่างขั้วทางการเมือง อาจมีวิสัยทัศน์และนโยบายไม่ตรงกัน ต้องมาเริ่มต้นใหม่ ทำให้เสียเวลา ขณะที่เศรษฐกิจไทยไม่มีเวลาลองผิดลองถูกอีกแล้ว
นายเกรียงไกร กล่าวว่า กระทรวงหลักที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ได้แก่ กระทรวงการคลัง กำกับดูแลนโยบายการเงินการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรมผลักดันการผลิตและอุตสาหกรรมใหม่ กระทรวงพาณิชย์ วางทิศทางการค้าและการส่งออก และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม
นอกจากนี้ยังมีกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่าง กระทรวงแรงงาน เสริมกำลังคนและการจ้างงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฟื้นฟูและยกระดับการท่องเที่ยว รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พัฒนาเกษตรกรรม ระบบชลประทาน และสนับสนุนเกษตรกร สินค้าทางการเกษตร เมื่อรวมกันแล้ว กระทรวงเหล่านี้ คือกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย การบริหารภายใต้นโยบายและวิสัยทัศน์ทางการเมืองเดียวกัน จะทำให้การขับเคลื่อนเป็นเอกภาพ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด
“รัฐบาลเฉพาะกาล 4 เดือนเพียงพอหรือไม่ หรือควรอยู่ยาวก่อนยุบสภา มองว่า 4 เดือนถือว่าสั้นเกินไป ทำอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะการฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่สามารถเห็นผลได้ภายในเวลาสั้นๆ หากรัฐบาลอยู่ต่อเพียง 4 เดือน สิ่งที่จะทำได้จริง คือ มาตรการเฉพาะหน้า เช่น การอัดฉีดเงินหรือการกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ในมิติของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ต้องใช้ความต่อเนื่องและการดำเนินงานแบบบูรณาการ ดังนั้นจึงเห็นว่าการมีรัฐบาลที่อยู่ต่อในระยะเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้สามารถดำเนินนโยบายเชิงโครงสร้างได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปฏิรูปภาษี การปรับปรุงกฎระเบียบ และการสนับสนุน SMEs รวมถึงสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ลดความผันผวนที่เกิดจากการเมือง และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศและมีเวลาพอที่จะเดินหน้านโยบายระยะยาว เช่น การผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และการดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ”นายเกรียงไกร กล่าว
สำหรับนโยบายเร่งด่วนอันดับแรกที่รัฐบาลควรเป็นดำเนินการนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เพราะวันนี้โลกกำลังจับตาประเทศไทย หากรัฐบาลส่งสัญญาณความมั่นคงและนโยบายต่อเนื่องได้ เงินลงทุนและการค้าจะฟื้นเร็วขึ้น โดยนโยบายเร่งด่วนที่ควรดำเนินการควบคู่กันไปมี 3 เรื่องใหญ่ ประกอบด้วย 1.ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในธุรกิจ และการพัฒนาทักษะใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน 2.ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพแข่งขัน ผ่านการจัดการพลังงานและลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ 3.สร้างเสถียรภาพ ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันความผันผวนจากปัจจัยภายนอก เช่น อัตราเงินเฟ้อโลก ราคาพลังงาน และมาตรการทางการค้าจากต่างประเทศ
“การฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่ใช่แค่มาตรการเฉพาะกิจ แต่ต้องเดินหน้าครบรอบด้าน คือ รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ทีมเศรษฐกิจมืออาชีพ การช่วยเหลือ SMEs อย่างจริงจัง และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานหมุนเวียน เหล่านี้ คือ ฐานสำคัญที่จะพยุงเศรษฐกิจ ฟื้นความเชื่อมั่น และสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศไทย”นายเกรียงไกร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี