นายอนุวัฒน์ มณีนพรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี เอส โปรเจค มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPS (บริษัทในเครือ LPP Property Management) เปิดเผยว่า LPS ผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 30 ปี เตรียมยกระดับสู่การเป็น “One-Stop Service” ที่ช่วยเปลี่ยนวิธีคิดของเจ้าของโครงการในยุคใหม่ โดยที่ผ่านมา LPS ให้บริการครอบคลุมงานที่ปรึกษาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ งานบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง และต่อมาได้ขยายมายังกลุ่มธุรกิจรับเหมาออกแบบ ก่อสร้าง ปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม และบริการด้านวิศวกรรมอาคารชุดครอบคุลมการบำรุงรักษา ซึ่งทำให้มีความพร้อมในการให้บริการแบบ One-Stop Service ได้ในปัจจุบัน
อีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะยกระดับบริการของ LPS สู่การเป็น “One-Stop Service” คือ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของโครงการอสังหาฯ ทั้งโครงการขนาดเล็ก-ใหญ่ มาอย่างยาวนาน ซึ่งสะท้อนถึงความเข้าใจในทุกมิติของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทีมงานมืออาชีพ ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริหารโครงการ เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ พร้อมมุ่งมั่นเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถให้บริการได้ครบวงจรในทุกขั้นตอนของการพัฒนาโครงการอย่างแท้จริง โดย LPS เคยเป็นหนึ่งผู้ขับเคลื่อนงานพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN และต่อมาในปี 2565 ได้มีการปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจ โอนย้าย LPS เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทในเครือ LPP
ทั้งนี้ แม้ในภาวะปัจจุบันภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะไม่ได้เติบโตอย่างหวือหวา เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามการเติบโตของอสังหาฯ ยังมีหลายเซกต์เมนต์ที่เติบโตไปได้ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล โรงงาน ฯลฯ รวมถึงตลาดของการ Redevelop ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการนำอาคารเก่าบนที่ดินที่มีศักยภาพมาปรับปรุงให้ทันสมัย สามารสร้างคุณค่าและมูลค่าได้ ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยั่งยืน ทั้งในแง่ของการลงทุนและสิ่งแวดล้อม โดยอาคารที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ LPS จะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่ดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีระบบบริหารจัดการอาคารที่สอดคล้องกับแนวคิด Smart Building ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาวแล้ว ยังสามารถเพิ่มมูลค่าอาคารและตอบโจทย์ด้าน ESG (Environment, Social, Governance) ที่นักลงทุนและผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น
“ปัจจุบัน LPS ได้รับความไว้วางใจจากหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการ Redevelop อาทิ โครงการ CANVAS 39 ปรับปรุงจากอพารท์เมนท์เป็นคอนโดมิเนียม โครงการปรับปรุงโรงแรมร้างแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง รวมถึงโครงการปรับปรุงคอนโดสู่ธุรกิจโรงแรม ฯลฯ โดยบริการของ LPS จะเริ่มที่ Survey ออกแบบทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม รับเหมาก่อสร้าง ควบคุมงานให้เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้ แล้วส่งมอบให้ลูกค้าเพื่อนำไปติดแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมา LPS เคยอยู่เบื้องหลังและขับเคลื่อนความสำเร็จให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) โครงการขนาดใหญ่มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 LPS ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 300 ล้านบาท โดยจากภาพรวมการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าบริษัทจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่แผนการเติบโตระยะกลางภายใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่าหรือมากกว่า 600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 26% นายอนุวัฒน์ กล่าว
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี