เศรษฐศาสตร์วันหยุด : ‘ผอ.ทอท.’คนใหม่  ต้อง ‘ถูกฝาถูกตัว’

เศรษฐศาสตร์วันหยุด : ‘ผอ.ทอท.’คนใหม่ ต้อง ‘ถูกฝาถูกตัว’

วันอาทิตย์ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.30 น.

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT)…เคยเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง เป็นหลักทรัพย์ตัว TOP ที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนแต่ปัจจุบันสภาพของ ทอท. เป็นเช่นไร และด้วยเพราะเหตุใด เราลองมาวิเคราะห์ผ่านตัวเลขรายได้ของ ทอท. กันดู…ปี 2562 รายได้ 63,491 ล้านบาท กำไร 25,123 ล้านบาท ราคาหุ้น 74 บาท มูลค่าตลาด 1.07 ล้านล้านบาท ปี 2563 รายได้ 11,902 ล้านบาทขาดทุน 11,087 ล้านบาท ราคาหุ้น 56.5 บาท มูลค่าตลาด 0.80 ล้านล้านบาท ปี 2564 รายได้ 1,666 ล้านบาท ขาดทุน 16,322 ล้านบาท ราคาหุ้น 61 บาท มูลค่าตลาด 0.87 ล้านล้านบาท ปี 2565 รายได้ 17,891 ล้านบาท ขาดทุน 11,087 ล้านบาท ราคาหุ้น 72.5 บาท มูลค่าตลาด 1.04 ล้านล้านบาท ปี 2566 รายได้ 48,445 ล้านบาท กำไร 8,790 ล้านบาท ราคาหุ้น 69.5 บาท มูลค่าตลาด 0.99 ล้านล้านบาท ปี 2567 รายได้ 67,827 ล้านบาท กำไร 19,182 ล้านบาท ราคาหุ้น 64 บาท มูลค่าตลาด 0.91 ล้านล้านบาท ปี 2568 รายได้ 68,124 ล้านบาท กำไร 18,534 ล้านบาท ราคาหุ้น 39 บาท มูลค่าตลาด 0.55 ล้านล้านบาท

จากข้อมูลนี้ จะเห็นได้ว่า ปี 2562 ทอท.เคยมีราคาหุ้นถึง 74 บาท มูลค่าตลาดถึง 1 ล้านล้านบาท ขนาดในช่วงโควิด ปี 2563-2565 ที่มีการล็อกดาวน์ ถึงแม้จะรายได้และกำไรหดตัวมาก แต่กลับกลายว่า ยังรักษาราคาหุ้น 50-60 บาท และมูลค่าตลาด 0.8-1 ล้านล้านบาท แต่ล่าสุดปี 2568 ทั้งที่รายได้และกำไรจะขึ้นมาใกล้เคียงปี 2562 แต่ราคาหุ้นกลับร่วงลงไปเหลือ 39 บาทและมูลค่าตลาดเหลือ 0.55 ล้านล้านบาท (พอๆ กับสิบปีก่อน ในปี 2558 ที่มีผู้โดยสาร รายได้ และกำไร น้อยกว่าปัจจุบันมาก) เรียกได้ว่า ตั้งแต่ปี 2566 ถึง 2568 ทอท. ทำมูลค่าตลาดของผู้ถือหุ้นหายไปถึงเกือบ 4 แสนล้านบาท หรือประมาณ 40%


อันนี้เป็นประเด็นที่สำคัญมาก อาจถือได้ว่าเป็นความเสียหายต่อนักลงทุน โดยเฉพาะต่อผู้ถือหุ้นใหญ่ คือรัฐบาล กองทุนและสหกรณ์ต่างๆ ที่ถือหุ้นรวมกันร่วม 80% และยิ่งกว่านั้น คือต่อตลาดทุน (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) เพราะ ทอท. เป็น Big Cap เป็นบริษัทที่มีมูลค่ารวมของหุ้นในตลาดสูงมาก การที่มูลค่าตลาดหายไปถึงเกือบ 4 แสนล้านบาท ร่วม 40% สามารถสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งนอกจากไม่เติบโตในสิบกว่าปีแล้ว ยังหดตัวเล็กลงด้วย ส่งผลต่อภาพรวมความเชื่อมั่น เครดิตเรตติ้ง และการลงทุนทั้งของหลักทรัพย์ไทย และของประเทศ ดังนั้น ทอท. ในฐานะเป็น Big Cap ราคาหุ้นและมูลค่าตลาดของ ทอท. จึงเป็นภารกิจต่อผู้ถือหุ้นและต่อตลาดทุนที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่เป็นแค่หนึ่งในรัฐวิสาหกิจทั่วไปของรัฐบาล

อาจวิเคราะห์ได้ว่า ปี 2568 ขณะที่ผลประกอบการ (รายได้และกำไร) ก็อยู่ในเกณฑ์เติบโตตามสัดส่วนของผู้โดยสาร แต่ราคาหุ้นและมูลค่าตลาดกลับหายไป 40% น่าจะเกิดจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะต่อตัวผู้บริหารของ ทอท. เพราะช่วงปี 2558-2565ผู้อำนวยการใหญ่ คือ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ที่ได้ดำรงตำแหน่งถึง 8 ปี 2 สมัยเพราะเป็นผู้บริหารที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและไม่มีข้อครหาร้องเรียน จึงทำภารกิจต่อผู้ถือหุ้นได้ดี แต่เข้าปี 2566 การเมืองกลับแต่งตั้งผู้บริหารแบบตบรางวัล และมาแบบข้ามห้วย ไม่สนใจความเหมาะสมหรือไม่??? อย่าง “ผอ.ทอท.”คนก่อน ที่เดิมมาจากบริษัทที่ปรึกษาด้านรถไฟฟ้า ที่มีขนาดไม่ใหญ่พอให้มีคุณสมบัติสมัครผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. แต่ด้วยผลงานที่ต้องอึ้ง(ขนาดถูกร้อง ป.ป.ช.และอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา) เลยส่งมาให้เป็นระดับรองผู้อำนวยการใหญ่ก่อน เพื่อให้มีคุณสมบัติสามารถสมัครเป็นผู้อำนวยการใหญ่ได้ แต่แล้วในที่สุด ด้วยผลการบริหารก็ทำให้มูลค่าตลาดตกต่ำมากตามตัวเลขข้างต้น ซ้ำยังมีข้อครหาจากการถูกร้องเรียนหลายเรื่อง จนมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และกระทบชื่อเสียงของ ทอท. จนต่อมาต้องลาออกไปก่อนจะครบวาระในที่สุด...ซึ่งเวลานี้ก็มีผู้สมัครที่นับว่าเป็น “เด็กมีนาย” ถูกส่งมาตามสูตรเดิม...ทำให้ได้ขึ้นตำแหน่งแบบก้าวกระโดด จากคนนอกที่ไม่เคยมีประสบการณ์บริหารองค์กรใหญ่เลย ได้เข้าเป็นระดับ ผอ.ใน ทอท. เป็นระดับรองฯภายในแค่ 3 ปี จนได้คุณสมบัติสมัครผู้อำนวยการใหญ่ได้ ขณะที่ ทอท.คนอื่นใช้เวลา 20 ปี (จนเกิดข้อครหา มีการร้องเรียนว่าแต่งตั้งไม่ถูกต้องตามระเบียบ จนเสียธรรมาภิบาลและจริยธรรมองค์กร)

ช่วงเวลาต่อจากนี้ ทอท. ก็ใช่ว่าจะพ้นขวากหนาม เพราะการท่องเที่ยวของไทยยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และอาจจะมีรายได้อื่นที่ไม่ใช่จากการบิน คือดิวตี้ฟรี ลดลงไปอีกดังนั้นการสรรหาผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ จะต้องได้คนที่ถูกฝาถูกตัว กับภารกิจ..ฟื้นฟูรายได้ กำไร ให้กับ ทอท. และที่สำคัญคือ ราคาหุ้นที่เหมาะสมเหมือนในอดีต ซึ่งปัจจัยหลักคือนักลงทุนต้องมีความเชื่อมั่นต่อผู้บริหารที่ถูกคัดสรรมาตามความเหมาะสม ไม่ใช่แบบใบสั่งนักการเมือง โดยไม่สนใจความสามารถ และใช้วิธีชุบตัวสร้างคุณสมบัติ แล้วยังเต็มไปด้วยข้อครหาถูกร้องเรียน ทอท. จะยังซ้ำรอยเดิมแบบที่เพิ่งผ่านมาไหม

พงษ์พันธุ์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top