‘ศุภจี’เผยการค้าไทย–จีน 8 เดือนแรกปี’68 พุ่ง 28.1% จีนยังรั้งคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย 12 ปีซ้อน

‘ศุภจี’เผยการค้าไทย–จีน 8 เดือนแรกปี’68 พุ่ง 28.1% จีนยังรั้งคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย 12 ปีซ้อน

วันอาทิตย์ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.37 น.

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 กันยายน 2568 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับมอบหมายจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand- China Cooperation Expo 2025” ณ ห้องรอยัล จูบิลี อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ภายใต้ธีม “50 ปี ความสัมพันธ์ไทย–จีน : ก้าวสู่ความรุ่งเรืองร่วมกัน” เพื่อเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ไทย–จีนที่ยืนยาวและแนบแน่น เสมือนครอบครัวเดียวกัน พัฒนาความร่วมมือในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

โดยมี พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ,นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ,นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ,ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ,นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย–จีน และนายหลิว ฉวนเหลย นายกสมาคมการค้าวิสาหกิจจีนในไทย เข้าร่วมในงานด้าย


นางศุภจี กล่าวว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 โดยการค้าระหว่างไทย–จีนในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่ากว่า 96,254 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ขยายตัวถึง 28.1% ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น จึงขอบคุณฝ่ายจีนที่เป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญยิ่งของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย มันสำปะหลัง ยางพารา และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 นี้ จีนได้นำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น หากยังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างไทยและจีน

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปีแห่งการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ในปี 2568 นี้ ไทยและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการซื้อขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ(G to G) จำนวนที่ยังค้างส่งมอบ 280,000 ตัน ได้สำเร็จ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันแนบแน่นของ 2 ประเทศ”นางศุภจี กล่าว

ส่วนด้านการลงทุน จีนยังคงเป็นนักลงทุนโดยตรงอันดับ 1 ในไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอนาคต เช่น พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และเทคโนโลยีชีวภาพ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว จีนยังคงเป็นตลาดหลักที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยรัฐบาลไทยมุ่งมั่นสร้างความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจีน และระหว่างนี้เป็นช่วงวันหยุดยาว “Golden Week” ของจีน จึงเป็นโอกาสอันดีที่นักท่องเที่ยวจีนจะมาเที่ยวเมืองไทย โดยขอให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลและประชาชนชาวไทยพร้อมต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวจีนอย่างเต็มที่

นางศุภจี กล่าวว่า แนวนโยบายของรัฐบาลที่สอดคล้องกับความร่วมมือไทย–จีนใน 5 มิติสำคัญ ได้แก่ การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร และการแลกเปลี่ยนประชาชนทั้งด้านการศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ยังคงผลักดันความร่วมมือด้านการค้าในทุกระดับ ทั้งภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีน (ACFTA) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และการทำบันทึกความร่วมมือ(MOU) กับมณฑลต่างๆของจีน ตลอดจนการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญในจีน เช่น “China International Import Expo (CIIE) 2025” ที่นครเซี่ยงไฮ้ ขณะเดียวกันก็เชิญชวนผู้ประกอบการจีนเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในไทย เช่น “Bangkok Gems & Jewelry Fair” และ “THAIFEX – ANUGA ASIA”

โดยในจีนกระทรวงพาณิชย์มีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศถึง 8 แห่ง ได้แก่ 1.เฉิงตู 2.คุนหมิง 3.หนานหนิง 4.กวางโจว 5.เซี่ยเหมิน 6.เซี่ยงไฮ้ 7.ชิงต่าว และ 8.ฮ่องกง รวมทั้งสำนักงานพาณิชย์ ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและจีนอย่างใกล้ชิด

“รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ พร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมโยง เพื่อเปิดประตูสู่การค้าการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทย- จีน ทั้งการช่วยผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจในตลาดจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น และการช่วยสนับสนุนนักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุนและค้าขายในไทย และจะเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของทั้ง 2 ประเทศต่อไป”นางศุภจี กล่าว

-033

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top