** บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (29 ก.ย.-3 ต.ค. 68)...โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรปตะวันออกหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ปิดกั้นโอกาสตอบโต้รัสเซียหากมีการคุกคาม ขณะที่ตัวเลขจีดีพีปีนี้ คาดการณ์ว่าจะเติบโตสูงกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้านี้ ในขณะที่นโยบายการปรับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของปียังไม่มีความชัดเจน อย่างไรก็ตามอิรักยังคงไม่สามารถส่งออกน้ำมันผ่านท่อจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานไปยังตุรกีได้ เนื่องจากยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการชำระหนี้สินคงค้าง ขณะที่จีนน้ำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 เดือน…ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 64-74 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล…
** ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)… มีมติอนุมัติให้ดำเนินการระดมทุนผ่านโครงการบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดมูลค่าสูงสุด (Asset Monetization)โดยการให้ PTT Tank เข้าถือหุ้น 49% ในบริษัทย่อยของ TOP ที่จะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาว 21 ปี ในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทฯ ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้แก่ ถังเก็บน้ำมันดิบ ทุ่นผูกเรือกลางทะเล (Single Buoy Mooring :SBM) สถานีจ่ายน้ำมันทางรถและที่ดินบางส่วน โดย TOP จะเช่าทรัพย์สินกลับเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันได้อย่างต่อเนื่อง...
** บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดงาน PTTEP Anti-Fraud and Anti-Corruption Day 2025 ภายใต้แนวคิด “Together Against Fraud and Corruption - สร้างพลังโปร่งใส ไม่รับ ไม่ให้ ไม่โกง” เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใส ปราศจากการทุจริตและคอร์รัปชัน ภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมเป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์บรรยายพิเศษ พร้อมการบรรยายโดย ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆที่เสริมสร้างความรู้และความตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันการเกิดทุจริตและคอร์รัปชันทุกรูปแบบ...
** คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้กำหนดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของก๊าซหุงต้ม (LPG) เพื่อคงราคาจำหน่ายก๊าซ LPG อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ต่อไปอีก 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2568) ภายหลังสิ้นสุดมาตรการเดิมที่จะหมดอายุวันที่ 30 กันยายน 2568...สำหรับราคา LPG CARGO ช่วงวันที่ 1 -12 กันยายน 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 516.70 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน คิดเป็นราคาขายก๊าซหุงต้ม (LPG) อยู่ที่ 428.75 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ขณะที่ราคา LPG ในประเทศกำหนดราคาขายปลีกก๊าซ LPG อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม...ทั้งนี้ การประชุม กบน. ยังได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ราคา LPG ในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าจะเข้าสู่ฤดูหนาว และมีแนวโน้มว่าราคา LPG จะปรับสูงขึ้น...ปัจจุบัน ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 21 กันยายน 2568 ติดลบอยู่ที่ 19,161 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันบวก อยู่ที่ 23,265 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ อยู่ที่ 42,426 ล้านบาท…
** คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ...ได้เข้าทำการสอบความถูกต้องของกระบวนการเปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 จำนวน 2,180 เมกะวัตต์...ซึ่งพบว่าไม่มีความผิด... อย่างไรก็ตามที่ได้ขอให้ตรวจสอบราคารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ เนื่องจากเดิมใช้ราคาอ้างอิงของโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนผิวน้ำ หรือโซลาร์ลอยน้ำ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แต่โครงการที่ให้ยื่นข้อเสนอเข้ามาในเฟส 2 เป็นประเภทโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ซึ่งเป็นคนละประเภทกัน สมมุติฐานจึงไม่เหมือนกัน…ดังนั้นทาง กฟผ. และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำลังคำนวณราคาใหม่ หากพบว่าราคาสูงกว่าที่กำหนดรับซื้อเดิม จะต้องแจ้งไปยัง กพช. ก่อน แต่หากราคาไม่สูงไปกว่าเดิมก็สามารถเข้าสู่กระบวนการเจรจากับผู้ที่ผ่านเข้าร่วมโครงการในกลุ่ม 72 รายได้ ตามที่ กกพ. ประกาศไว้ ทั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ในโควตา 2,180 เมกะวัตต์ได้โดยเร็ว เนื่องจากขั้นตอนทุกอย่างที่ กกพ. ดำเนินการมาถูกต้องตามกฎหมายและตามมติ กพช. แล้ว...!! ที่ผ่านมา สำนักงาน กกพ. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 ได้ประกาศจำนวนผู้ผ่านเข้าร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ทั้งสิ้น 72 ราย โดยแบ่งเป็น 1.ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม 8 ราย รวมกำลังผลิต 565.40 เมกะวัตต์ 2.ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน จำนวน 64 ราย รวม 1,580 เมกะวัตต์ หรือรวมปริมาณทั้งสิ้น 2,145.40 เมกะวัตต์…สำหรับราคารับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบโซลาร์ฟาร์มนั้น ที่ผ่านมามติ กพช. เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 กำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าตามต้นทุนที่แท้จริงไว้ในอัตรา 2.1679 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 25 ปี…
** บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)... ประกาศเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอู่ตะเภา (เฟส 1) กำลังการผลิตติดตั้งรวม 18 เมกะวัตต์ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568...โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนที่ราชพัสดุภายในพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เนื้อที่ 100 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้โครงการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกและท่าอากาศยานอู่ตะเภา ตามนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีสัญญาเช่าระยะเวลา 25 ปี... อยู่ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะเวลา 25 ปี กับการไฟฟ้าสัตหีบ สวัสดิการกองทัพเรือ โดยภายใต้สัญญานี้ โครงการจะจำหน่ายไฟฟ้าที่อัตราค่าไฟฟ้าต่ำกว่าอัตราค่าไฟฟ้า TOU เดิม 15.16% ...**
** กระบองเพชร **
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี