นายวิทิตร รักษ์ธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) เดือน ก.ย.2568 ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 50.1 เป็น 50.7 ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า และค่าครองชีพสูง ตลอดจนปัญหาสงครามการค้า ยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 44.4 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 48.5 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 59.3 ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นฯ ทุกรายการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนเช่นเดียวกัน โดยมีปัจจัยบวกสำคัญ ที่มีผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้แก่ 1.การเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนขึ้น หลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะหนุนความเชื่อมั่น บรรยากาศการลงทุน และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ,2.ครม.ชุดใหม่ เห็นชอบขยายเวลาการคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% ออกไปอีก 1 ปี เพื่อส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ,3.SET Index เดือน ก.ย.2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. 37.56 จุด มาเป็น 1,274.17 จุด ,4.การส่งออกของไทยเดือน ส.ค. 2568 มีมูลค่า 27,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.79% ซึ่งยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ,5.ผลจากการเจรจาการค้าระหว่างรัฐบาลไทย-สหรัฐฯที่ทำให้สินค้าไทยได้ลดอัตราภาษีนำเข้าในสหรัฐฯลงเหลือ 19% จากเดิมที่คาดว่าจะถูกเรียกเก็บ 36% ,6.ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลง และ7.รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวผ่านโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ประจำปี 68 ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม-ที่พัก และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
ขณะเดียวกันมีปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ 1.ผู้บริโภคยังกังวลว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า และยังมีปัญหาค่าครองชีพ รายได้ไม่สอดคล้องกับรายจ่าย, 2.ความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน ระหว่างไทย-กัมพูชา, 3.ราคาพืชผลเกษตรอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อน เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และยางพารา ,4.ความกังวลต่อสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศ, 5.เงินบาทปรับตัวแข็งค่า ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาสินค้าของไทยกับประเทศคู่แข่ง และ6.ความกังวลต่อปัญหาความขัดแย้งของโลกที่ยังคงยืดเยื้อ เช่น รัสเซีย-ยูเครน และอิสราเอล-กลุ่มฮามาส
ด้าน นายวชิร คูณทวีเทพ รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยประจำเดือนกันยายน 2568 ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่าง 369 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 23-30 ก.ย.2568 พบว่าความเชื่อมั่นหอการค้าไทยอยู่ที่ระดับ 44 ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา และเป็นการลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มี.ค.2568 โดยมีปัจจัยมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ความกังวลตอนแนวทางนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เศรษฐกิจอย่างฟื้นตัวช้าความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน ราคาเข้าเปลือกเจ้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังและยางพารายังอยู่ในระดับต่ำ ปัญหาเรื่องต้นทุนของผู้ประกอบการสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ของโลกและค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ส่วนปัจจัยบวกที่มีผลกระทบ คือ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนการส่งออกของไทยขยายตัวดีขึ้น ผลการเจรจาทางการค้าระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐฯได้ในอัตราภาษีนำเข้า 19% ราคาน้ำมันขายปลีกลดลง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.2568 นี้ ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวัง และมีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะสามารถใช้นโยบายของรัฐบาล กระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นได้ โดยโครงการ “คนละครึ่งพลัส” จะมีผลในเรื่องความเชื่อมั่นและฟื้นเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี