วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 ได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ (United Nations Convention against Cybercrime) ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของ 68 ประเทศ และสหภาพยุโรป (EU) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมและสร้างมาตรการในการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น พร้อมทั้งอํานวยความสะดวก และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ รวมถึงการสนับสนุนความช่วยเหลือทางวิชาการและการเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ของประเทศกําลังพัฒนา
อย่างไรก็ตามในระหว่างการประชุมระดับสูง (High-Level Conference) ตนยังได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลง โดยได้เน้นย้ำถึงความรุนแรงของการหลอกลวงออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนไทย ซึ่งรัฐบาลไทย โดยนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้ความสำคัญ และเอาจริงเอาจังต่อปัญหาดังกล่าว โดยได้กำหนดให้เป็น “วาระแห่งชาติ”
ทั้งนี้รัฐบาลไทยได้จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมดำเนินมาตรการเชิงรุก 3 ด้าน ได้แก่
1.การตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตบริเวณแนวชายแดน และตรวจจับการลักลอบการเชื่อมต่อสัญญาณ เพื่อไม่ให้มีสัญญาณเล็ดลอดออกนอกประเทศ
2.การบูรณาการด้านข้อมูลร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาฐานข้อมูลกลางแบบเรียลไทม์ เพื่อการติดตามเส้นทางการเงินของผู้กระทำผิด บัญชีม้า ได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการเร่งคืนเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหาย
และ 3.ดำเนินการตอบโต้ โดยเร่งรัดการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามทางเทคโนโลยีฉบับใหม่ ที่เน้นให้ความสำคัญ ในการ “ป้องกัน ปราบปราม และตอบโต้” เน้นการกำกับดูแลตามหลักเกณฑ์ และบทลงโทษที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว ภายในระยะเวลา 1 – 2 เดือน โดยหากพบเบาะแส ข้อมูลการร่วมกระทำความผิด หรือเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และการพนันออนไลน์ ของบุคคลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของรัฐ จะดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาดและถึงที่สุดตามกฎหมายในทันที
นอกจากนี้ รัฐบาลไทย ยังขอแสดงความชื่นชมกับการดำเนินการอย่างเด็ดขาดของสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ ในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และพร้อมให้ความร่วมมือกับนานาประเทศในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“การลงนามอนุสัญญาดังกล่าว นับเป็นก้าวสำคัญและการแสดงจุดยืนของไทยในการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ทั้งในระดับภูมิภาค และระดับโลก โดยแสดงให้เห็นว่าประเทศไทย ให้ความสำคัญและพร้อมใช้ยาแรงในการปราบปราม ควบคู่ไปกับการสร้างความร่วมมือกับนานาชาติจัดการปัญหาสแกมเมอร์ ที่มีผลกระทบต่อประชาชนคนไทย ประชาคมโลก อย่างจริงจัง เพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” นายไชยชนก กล่าว
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี