ไรเดอร์ ตบเท้าเข้าพบ  รมว. ‘ดีอี’ ร้องหามาตรการช่วยเหลือ

ไรเดอร์ ตบเท้าเข้าพบ รมว. ‘ดีอี’ ร้องหามาตรการช่วยเหลือ

วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 09.24 น.

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568  พร้อมด้วยนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รับหนังสือร้องเรียนจาก กลุ่มตัวแทนไรเดอร์ในหลายแพลตฟอร์ม เพื่อขอให้เร่งหาทางบรรเทาผลกระทบจากประกาศของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA เรื่องการดำเนินการอื่นสำหรับผู้ประกอบธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์รับจ้างโดยสารสาธารณะ ที่มีลักษณะตามมาตรา 18 (3) แห่งพระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2568 รวมถึงประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดลักษณะและเงื่อนไขของรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (รย.17) และประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (รย.18) ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคง และสร้างภาระแก่ไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญ และไม่นิ่งนอนใจต่อความเดือดร้อนของประชาชน โดยกรณีนี้เป็นความเดือดร้อนของผู้ประกอบการอาชีพ ไรเดอร์ และ ไดร์เวอร์ โดยพร้อมจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาผ่านมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือในทุกมิติ


อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้ ETDA บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก แพลตฟอร์มผู้ให้บริการ บริษัทประกัน บริษัทไฟแนนซ์ ฯลฯ เพื่อดำเนินการประชุมหารืออย่างเร่งด่วนที่สุด ในการหาทางออกและกำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวที่จะดำเนินการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยลดภาระ และเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์อย่างยั่งยืน

“วันนี้ผมรับเรื่องไว้ด้วยความเข้าใจ และขอยืนยันว่าจะใช้กลไกทางดิจิทัลทุกทางที่มีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องไรเดอร์ให้เร็วที่สุด โดยสิ่งที่เรากำลังทำไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่คือการสร้างระบบสนับสนุนระยะยาว ให้ไรเดอร์ทำงานได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะพวกเขาถือเป็นฟันเฟือนอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย” นายไชยชนก กล่าว

สำหรับรายละเอียดข้อร้องเรียนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่กระทรวงคมนาคม และ ETDA ได้ประกาศให้ผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะ (รย.17 หรือ รย.18) และมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะภายในวันที่ 2 ตุลาคม 2568 ทำให้คนขับได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นการไม่อนุญาตให้ใช้รถส่วนบุคคล ค่าใช้จ่ายจากการเปลี่ยน สัญญาเช่าซื้อ

และการทำประกันภัยที่สูงเกินรายได้ของคนขับ ความล่าช้าในการดำเนินการเรื่องเอกสาร รวมไปถึงการถูกจับกุมในช่วงที่ยังมีการแก้ไขกฎหมายอยู่ ดังนั้นเพื่อช่วยเหลือคนขับที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ทางตัวแทนโดยกลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปฯ จึงได้นำเสนอแนวทางแก้ไข ดังต่อไปนี้

1.            ปรับกระบวนการส่งเอกสารให้สามารถดำเนินการผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้

2.            สามารถใช้สำเนาเล่มรถในการจดทะเบียนสำหรับรถติดไฟแนนซ์

3.            ช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทลีสซิ่ง

4.            ปรับเปลี่ยนข้อกำหนดสำหรับรถติดไฟแนนซ์ให้สามารถใช้ประกันภัยสำหรับรถสาธารณะขั้นพื้นฐานได้ไม่จำเป็นต้องเป็นประกันชั้นหนึ่งเท่านั้น

5.            แก้ปัญหาภูมิลำเนาของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะที่ต้องให้คณะกรรมการประจำจังหวัดหรือพื้นที่นั้นๆ รับรอง ทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการ

6.            ปรับข้อกำหนดเรื่องขนาดความจุเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันที่รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่มีขนาดเกินจาก 125 cc ตามกฎหมายกำหนด

7.            ปรับข้อกำหนดให้สามารถใช้รถเช่ามาให้บริการผ่านแอปพลิเคชันได้

8.            ขยายระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้คนขับจำนวนมากยังสามารถหาเลี้ยงชีพได้ในขณะที่ดำเนินการจดทะเบียน

- 030 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top