วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ดร.กิริฎา เภาพิจิตร เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Dissemination Workshop) ภายใต้โครงการปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศและการค้า (Action on Climate and Trade: ACT) ของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF) โดยความร่วมมือระหว่างองค์การการค้าโลก (WTO) กระทรวงพาณิชย์ และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมสยามแคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
โครงการปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศและการค้า หรือ ACT ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2566 โดยความร่วมมือของ WEF และ WTO มีเป้าหมายในการสนับสนุนให้ผู้กำหนดนโยบายของประเทศกำลังพัฒนาให้สามารถบูรณาการนโยบายการค้าเข้ากับกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2568 WEF เชิญประเทศไทยเข้าร่วมโครงการ ACT เพื่อสานต่อความร่วมมือกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจากประเทศอินโดนีเซียที่เข้าร่วมโครงการในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ โครงการ ACT ประเทศไทย เน้นภาคการเกษตรและการผลิตอาหาร และสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น พลังงาน และการขนส่ง
ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล ภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล คือ การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีเป้าหมายจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2050 โดยส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด การพัฒนายกระดับวิถีเกษตรกรไปสู่เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญและดำเนินงานตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล สนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะการเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ให้เข้มแข็ง สามารถปรับตัวตามทิศทางการค้าโลกที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าระหว่างประเทศ
ดร.กิริฎา กล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าร่วมโครงการ Action on Climate and Trade เน้นย้ำให้เห็นถึงบทบาทของประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับการบูรณาการนโยบายด้านการค้ากับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็น
หนทางหนึ่งที่จะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้าของประเทศ ควบคู่ไปกับการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอันเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของประเทศ และแสดงถึงความตั้งใจของประเทศไทยที่จะให้ความร่วมมือกับนานาชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายระดับโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้ ทีมผู้วิจัยจาก WEF และ WTO นำเสนอสาระสำคัญของรายงานการศึกษาฯ ความเสี่ยงและโอกาสของไทยที่มีการค้าเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยที่ระบบการค้ากำลัง
ก้าวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ แต่ภาคการเกษตรและอาหารเผชิญความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งไทยยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีสีเขียวที่จำเป็นต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ทั้งนี้ ไทยควรยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ รายงานฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสของไทยในการพัฒนาเป็นผู้นำการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยมีศักยภาพด้านการผลิตที่เข้มแข็ง มีระบบการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) ที่ได้มาตรฐาน และมีผู้ประกอบการจำนวนมากที่เริ่มลงทุนด้านพลังงานสะอาดและ
บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน รวมถึงไทยมีโอกาสในการดึงดูดการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน ระบบรีไซเคิล และเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ จึงมีข้อเสนอให้เร่งยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้า พัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับ ตลอดจนสนับสนุน SMEs ให้เข้าถึงมาตรฐานสากล เงินทุนสีเขียว และเทคโนโลยีด้านพลังงานและโลจิสติกส์คาร์บอนต่ำ
การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้ ถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งของกระทรวงพาณิชย์ ในการดำเนินการขับเคลื่อน “การค้าสีเขียว” ผ่านการบูรณาการด้านข้อมูลและความคิดเห็นของหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงองค์การระหว่างประเทศ ผลการศึกษาที่ได้จากความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ จะเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบาย
ในบริบทด้านการค้าที่เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถกำหนดกลยุทธ์ที่ครอบคลุมเป้าหมายทั้งด้านการค้า การพัฒนาเศรษฐกิจ และด้านสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี