“DITP” จับมือ “SACIT”และ “OMIYA”เปิดตัว “กิโมโนผ้าไทย” ที่ญี่ปุ่น

“DITP” จับมือ “SACIT”และ “OMIYA”เปิดตัว “กิโมโนผ้าไทย” ที่ญี่ปุ่น

วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 10.00 น.
Tag :

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) กระทรวงพาณิชย์   เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) (ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)) หรือ SACIT และบริษัท OMIYA Co., Ltd (นาย Shinya Fusamoto, CEO of OMIYA Co., Ltd.) ผู้ค้าผ้ากิโมโนรายสำคัญของนครเกียวโต เปิดตัวคอลเลคชั่น “กิโมโนผ้าไทย” อย่างเป็นทางการ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว พร้อมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ผลักดันผ้าไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น
โครงการ Thai Kimono Project เกิดจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว และบริษัท Omiya จำกัด ที่มุ่งนำเสนอมิติใหม่ของความงามจากสองวัฒนธรรมระหว่างศิลปะงานทอผ้าอันล้ำค่าของไทย และศิลปะแห่งการสร้างสรรค์กิโมโนที่สืบทอดกันมายาวนานของญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการ Thai Kimono Project ได้นำผ้าทอไทยจากโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งพระองค์ได้ทรงฟื้นฟูภูมิปัญญาการทอผ้าไทยที่เปรียบเสมือนมรดกทางวัฒนธรรม และส่งเสริมให้ช่างทอท้องถิ่นสร้างสรรค์ผ้าแต่ละผืนด้วยความประณีตภายใต้แนวคิดการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาผสานกับความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการควบคุมคุณภาพกิโมโนของบริษัท Omiya จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจในเกียวโตมาอย่างยาวนาน ความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดงานหัตถกรรมไทยสู่สินค้าแฟชั่นระดับนานาชาติ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นซึ่งให้ความสำคัญกับงานฝีมือ ลวดลายดั้งเดิม และคุณค่าทางวัฒนธรรม ซึ่งผ้าไทยไม่ใช่เพียงความงามทางวัฒนธรรม แต่เป็นสินค้าที่มีศักยภาพเชิงเศรษฐกิจระดับโลกได้ หากมีการต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ให้เข้ากับวิถีของแต่ละประเทศ เช่น กิโมโนผ้าไทยในญี่ปุ่นที่สะท้อนทั้งมิตรภาพของสองชาติ และศักยภาพงานหัตถศิลป์ไทยบนเวทีสากล

ซึ่งบริษัท OMIYA ได้ร่วมพัฒนาผ้าทอไทยกับชุมชนในจังหวัดสกลนครและนครพนม ภายใต้โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” โดยคัดสรรผ้าทอที่เหมาะสมกับคุณสมบัติของผ้ากิโมโน ก่อนพัฒนาสู่คอลเลคชั่นใหม่ 3 กลุ่ม ได้แก่
1.กิโมโนผ้าไทยจากผ้าทอพื้นถิ่นดอนกอยและนาหว้า
2.กิโมโนผ้าไทยจากแหล่งผลิตอื่นทั่วประเทศ
3.กิโมโนผลิตในญี่ปุ่นด้วยด้ายไหมไทยจากชุมชน


โดยชุดกิโมโนผ้าไทยล็อตแรกจะวางจำหน่ายทั่วญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2569 โดยมียอดจองแล้วกว่า 516 คำสั่งซื้อ คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.4 ล้านบาท สะท้อนการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคญี่ปุ่น ซึ่งเห็นคุณค่าในงาน ฝีมือและความร่วมสมัยของผ้าไทย

ทั้งนี้ญี่ปุ่นเป็นตลาดสำคัญของสินค้าไทย โดยไทยส่งออกสิ่งทอมูลค่ากว่า 1,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 และสินค้าสิ่งทอไทยส่วนใหญ่ได้รับสิทธิลดภาษีนำเข้าเป็น 0% ภายใต้ความตกลง JTEPA

“ผ้าทอมือไทยมีเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นความ ‘ไม่สมบูรณ์แบบที่งดงาม’ ที่เครื่องจักรทำไม่ได้ ลวดลายพื้นถิ่นมีเอกลักษณ์ และสอดคล้องกับเทรนด์ความยั่งยืนที่ผู้บริโภคญี่ปุ่นให้ความสำคัญ” นางสาวสุนันทา กล่าว

และ DITP มีแนวทางสร้างการรับรู้และคุณค่าของผ้าไทยในตลาดโลก ผ่าน 4 กลไกหลัก ได้แก่
-การบูรณาการความร่วมมือกับ SACIT นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมและการตลาด
-การเล่าเรื่อง (storytelling) เกี่ยวกับลวดลาย เทคนิคการทอ และบทบาทของชุมชน
-การพัฒนาผ้าไทยให้ร่วมสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคต่างประเทศ
-การผลักดันผ้าไทยสู่เวทีแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ระดับโลก

“การส่งเสริมผ้าไทยไม่ใช่เพียงการทำตลาด แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศ ตั้งแต่ต้นน้ำ—การผลิตผ้าและช่างทอ ไปจนถึงปลายน้ำ—ผู้ซื้อและแบรนด์ต่างประเทศ เพื่อให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน”นางสาวสุนันทา กล่าว ซึ่งมั่นใจว่าคอลเลคชั่นกิโมโนผ้าไทยจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากกิโมโนคือสัญลักษณ์วัฒนธรรมของญี่ปุ่น การผสมผสานผ้าไทยเข้าไปจึงช่วยเพิ่มสีสันใหม่ให้แฟชั่นดั้งเดิม สร้างเอกลักษณ์ที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมสองประเทศ เป็นการส่งเสริมงานหัตถศิลป์ร่วมกันระหว่างไทย–ญี่ปุ่น และจะนำไปสู่ความร่วมมือทางการค้าและการพัฒนาสินค้าร่วมสมัยในอนาคต

และ DITP เตรียมขยายแนวคิดการพัฒนางานหัตถกรรมไทยไปสู่สินค้าไลฟ์สไตล์อื่น เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องครัว สินค้าแฟชั่น และสินค้าวัฒนธรรม โดยทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม และพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อยกระดับดีไซน์คุณภาพให้แข่งขันได้ในตลาดโลก พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายผ่านดิจิทัลและเครือข่ายสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่าในต่างประเทศ (สคต.)ทั่วโลก

ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เว็บไซต์ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169 และสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเป็นผู้ขายบนเว็บไซต์หรือติดตามข้อมูลการค้าและคำสั่งซื้อจากทั่วโลกสามารถเข้าไปที่ แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ
 

-032


โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top