วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ปรับอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC) สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศจาก 730 บาท เป็น 1,120 บาท ขณะที่เส้นทางภายในประเทศยังคงอัตราเดิม 130 บาท โดยให้ ทอท.นำส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท) หรือ CAAT ตรวจสอบ และดำเนินการจัดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมชี้แจงอัตราที่เสนอปรับเพิ่มและเหตุผลความจำเป็น จากนั้นจึงรายงานผลต่อ กพท. ก่อนเสนอรมว.คมนาคมเพื่อพิจารณาอนุมัติ พร้อมกำหนดให้แจ้งประชาชนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือนก่อนเริ่มจัดเก็บในอัตราใหม่
อย่างไรก็ตาม กบร. ได้ให้เหตุผลการปรับเพิ่ม PSC เป็นมาตรการที่หลายประเทศใช้เพื่อรองรับต้นทุนการพัฒนาสนามบินให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศในหลายด้าน เช่น ยกระดับความปลอดภัยและมาตรฐานบริการสนามบิน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะนำไปใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวนนักเดินทางขาเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การมีระบบบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดภาระคอขวดและสนับสนุนการเดินทางที่สะดวกขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีโดยตรงต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ที่เป็นรายได้หลักของประเทศ
ขณะเดียวกันยังส่งเสริมบทบาทประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการบินของภูมิภาค การมีสนามบินที่มีศักยภาพและคุณภาพสูง จะดึงดูดสายการบินต่างประเทศให้เพิ่มเที่ยวบินหรือเปิดเส้นทางใหม่ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนของประเทศอย่างยั่งยืน
สำหรับการปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC) ที่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เสนอเพื่อใช้ในท่าอากาศยานตรัง ที่ประชุมได้มีมติให้คำแนะนำต่อรมว.คมนาคม โดยเห็นชอบให้ทย. ปรับค่าบริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นไม่เกิน 425 บาทต่อครั้ง จากเดิม 400 บาท และสำหรับเส้นทางภายในประเทศเป็นไม่เกิน 75 บาทต่อครั้ง จากเดิม 50 บาท โดยจะเริ่มจัดเก็บได้เมื่อท่าอากาศยานตรังติดตั้งระบบ CUPPS และอุปกรณ์ไม่น้อยกว่า 50% พร้อมเปิดให้บริการครบ 3 ระบบ ได้แก่ CUTE, CUSS และ CUBD ทั้งยังต้องผ่านการตรวจสอบความพร้อมโดย กพท. และแจ้งผู้โดยสารล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือนก่อนเริ่มเก็บค่าบริการในอัตราใหม่ ปัจจุบันมีสนามบินในสังกัด ทย.ทั้งหมด 6 ท่าอากาศยาน ได้แก่ สนามบินกระบี่ สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินอุบลราชธานี สนามบินขอนแก่น สนามบินนครศรีธรรมราช และสนามบินพิษณุโลก ที่เก็บค่าบริการในอัตรานี้
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบการปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศจากเดิม 15 บาทต่อผู้โดยสารต่อเที่ยว เป็น 25 บาทต่อผู้โดยสารต่อเที่ยว เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนและภารกิจด้านการกำกับดูแลตามกฎหมาย
ทั้งนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายและข้อบังคับชุดใหม่ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน และให้ความเห็นชอบการแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอากาศยานที่ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนจะจัดหามาเพื่อใช้ในการประกอบกิจการจากการจำกัดอายุของอากาศยาน เป็นไม่จำกัดอายุอากาศยานทุกประเภท ทั้งอากาศยานปีกแข็งและเฮลิคอปเตอร์ ที่จะจัดหามาเพื่อใช้ในการประกอบกิจการการบินพลเรือน
อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้ กพท. ทำความเข้าใจแก่สาธารณชนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในมาตรการการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของอากาศยานของ กพท. ที่เข้มงวดและรัดกุม เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยการบินพลเรือนในระดับสากล และมอบหมายให้คณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมายและข้อบังคับตรวจร่างข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือนฯ ที่ กพท. เสนอ ก่อน กพท. นำเสนอรมว.คมนาคมเพื่อพิจารณาลงนามในร่างข้อบังคับ กบร. ต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ บริษัทไทยสกาย บัลลูนนิ่ง จำกัด ได้รับใบอนุญาตการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศ (การบินบัลลูนเพื่อชมภูมิประเทศและโฆษณา และเห็นชอบให้ บริษัทสยามแลนด์ ฟลายอิ้ง จำกัด ต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์แบบไม่ประจำ อายุ 5 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี