ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจผลิตภัณฑ์ไก่ในประเทศในปี 2569 คาดว่าปริมาณการผลิตเนื้อไก่จะอยู่ที่ 3.47 ล้านตัน ขยายตัว 0.9% ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2568 ที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 1.3% ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณการบริโภคที่คาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว จากความต้องการในประเทศและตลาดส่งออกที่เติบโตช้าลงตามภาวะเศรษฐกิจ

ในขณะที่ราคาไก่ที่เกษตรกรขายได้หน้าฟาร์ม คาดจะยังทรงตัวเทียบกับปี 2568 แม้วัตถุดิบอาหารสัตว์จะมีทิศทางลดลง แต่ต้นทุนส่วนอื่นๆมีแนวโน้มขยับขึ้น อาทิ ต้นทุนการจัดการฟาร์มและค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ท่ามกลางราคาขายปลีกขยับขึ้นได้จำกัด เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุม ส่งผลให้การบริหารจัดการต้นทุนเพื่อรักษารายได้และอัตรากำไรยังเป็นโจทย์สำคัญของธุรกิจ

ด้านการแข่งขันของธุรกิจรุนแรงต่อเนื่อง เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดโดยเฉพาะรายใหญ่ ปัจจุบันมีผู้เล่นในธุรกิจผลิตภัณฑ์ไก่ 1,278 ราย (เฉพาะนิติบุคคล) โดยประมาณ 80% เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ส่วนอีก 20% เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่และรายกลาง

อย่างไรก็ดีผลผลิตเนื้อไก่จากฟาร์มเลี้ยงไก่ของเกษตรกรรายย่อย มีสัดส่วนเพียง 10% ของผลผลิตไก่เนื้อทั้งหมด ส่วนอีก 90% มาจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ลงทุนแบบครบวงจร ทั้งที่เป็นฟาร์มของบริษัทเอง รวมถึงการทำ Contract farming กับเกษตรกรรายย่อย ซึ่งผู้ประกอบการกลุ่มนี้มีการแข่งขันรุนแรงต่อเนื่อง ทั้งด้านคุณภาพและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด

ส่วนแนวโน้มการส่งออก คาดว่ามูลค่าชะลอตัวตามเศรษฐกิจคู่ค้าในปี 2569 มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ของไทยคาดอยู่ที่ 4,665 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 3.0% ชะลอตัวจากปี 2568 ที่คาดว่าจะเติบโต 5.0% ทั้งกลุ่มไก่แปรรูปและไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง โดยไก่แปรรูป ส่งออก 70% ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ทั้งหมด คาดจะเติบโตได้ 3.2% ชะลอตัวจากปี 2568 ที่คาดจะเติบโต 5.0% โดยเป็นผลจากความต้องการในคู่ค้าหลักอย่าง ญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร ที่ปรับลดลง ส่วนไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ส่งออก 30% คาดจะเติบโตได้ 2.4% ชะลอตัวจากปี 2568 ที่คาดจะเติบโต 5.0% ซึ่งจีนน่าจะยังเป็นตลาดที่ขยายตัวได้ จากความต้องการเนื้อไก่ในประเทศสูง แต่ไทยยังมีความเสี่ยงจากผลผลิตไก่ในจีนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการแข่งขันด้านราคารุนแรงกับคู่แข่งสำคัญที่กลับมาทำตลาดในจีน เช่น บราซิล สหรัฐฯ และรัสเซีย