DIP จับมือสถาบันอาหาร หนุนใช้ทรัพย์สินทางปัญญาขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารมูลค่าสูง

DIP จับมือสถาบันอาหาร หนุนใช้ทรัพย์สินทางปัญญาขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารมูลค่าสูง

วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 17.45 น.

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (24 ธันวาคม 2568) ตนและนางสาวไปยดา หาญชัยสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อบูรณาการความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมอาหารและทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดสากลได้อย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนให้คนไทยเป็นเจ้าของนวัตกรรมอาหารที่ตลาดโลกต้องการ

ทั้งนี้เนื่องจากแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารในปัจจุบันและอนาคต มุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมอาหารมูลค่าสูง เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ คุณภาพชีวิต และความยั่งยืน โดยเฉพาะกลุ่มนวัตกรรมอาหารเสริมสุขภาพ อาหารทางเลือก และอาหารจากพืช ซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยไปสู่ทิศทางดังกล่าว จำเป็นต้องอาศัยทรัพย์สินทางปัญญาเป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครองนวัตกรรม สร้างความแตกต่างทางการแข่งขัน และเสริมความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถขยายตลาดและยืนหยัดในเวทีสากลได้อย่างยั่งยืน


ในโอกาสนี้กรมฯและสถาบันอาหาร จึงได้ลงนาม MOU ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมอาหารและทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการผนึกกำลังร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เติบโตบนฐานนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา โดยใช้ต้นทุนความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศเป็นจุดแข็ง สร้างผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก พร้อมปรับมุมมองแนวคิดของภาคอุตสาหกรรม จากการผลิตเชิงปริมาณเพื่อจำหน่ายวัตถุดิบ สู่การวิจัยพัฒนาเพื่อสร้างสิทธิบัตรนวัตกรรมอาหารที่มีมูลค่าสูง และผลักดันให้คนไทยเป็นเจ้าของนวัตกรรมอาหารที่ตลาดโลกต้องการ

โดยภายใต้ MOU ดังกล่าว ทั้ง 2 หน่วยงานจะบูรณาการการทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมกรอบความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ 5 ด้านสำคัญ ได้แก่

1.การส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมอาหารที่เชื่อมโยงกับทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเพิ่มมูลค่าและขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ

2.การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อมูลทางวิชาการ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองการบริหารจัดการ และการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาในธุรกิจอาหาร

3.การพัฒนาและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมอาหาร ผ่านการอบรม สัมมนา หรือกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญา

4.การส่งเสริมการคุ้มครอง และการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร

5.การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันวิจัย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมอาหารของประเทศ

นางสาวไปยดา หาญชัยสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สถาบันอาหารพร้อมเดินหน้าประสานความร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันการดำเนินงานภายใต้ MOU ให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม

โดยสถาบันอาหารมีความเชี่ยวชาญด้านวิชาการ การวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ และมาตรฐานอาหาร พร้อมทั้งมีเครือข่ายบุคลากรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารที่มีศักยภาพจำนวนมาก ขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทโดยตรงในการให้ความคุ้มครองและส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ ทั้งสองหน่วยงานจึงสามารถบูรณาการองค์ความรู้ เทคโนโลยี และเครื่องมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยเสริมพลังการสร้างนวัตกรรมอาหารไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าวได้เริ่มขับเคลื่อนในทางปฏิบัติทันที ผ่านการเสริมศักยภาพนักนวัตกรรมอาหารให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาอย่างถูกต้อง โดยระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2568 กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้จัดทีมผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาในมิติต่างๆ ให้แก่บุคลากรของสถาบันอาหารและผู้ประกอบการในเครือข่าย ครอบคลุมความรู้พื้นฐานด้านทรัพย์สินทางปัญญา การบริหารจัดการสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบ เทคนิคการสืบค้นข้อมูลสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้า รวมถึงแนวทางการยกร่างคำขอและการยื่นจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IPAC) ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้การสนับสนุนข้อมูลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความพร้อมในการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ

-033

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top