คาดส่งออกไทยปี 69 หดตัว ผลภาษีสหรัฐฯ-การแข่งขันในตลาดโลก

คาดส่งออกไทยปี 69 หดตัว ผลภาษีสหรัฐฯ-การแข่งขันในตลาดโลก

วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.12 น.

Krungthai Compass รายงานว่า มูลค่าส่งออกเดือน พ.ย. 2568 อยู่ที่ 27,445.6 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 7.1%YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.7%YoY แรงขับเคลื่อนมาจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อน สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ทั้งนี้ การส่งออกที่ขยายตัวเร่งขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะการส่งออกทองคำหดตัวน้อยลง เมื่อหักทองคำแล้ว มูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัวได้ 8.7%YoY ชะลอลงจาก 13.0%YoY ในเดือนก่อน

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 12.2%YoY เร่งขึ้นจาก 8.8%YoY ในเดือนก่อน โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยสินค้าสำคัญที่เติบโต ได้แก่ เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+68.0%) อัญมณีและเครื่องประดับ (+66.7%) และ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+59.9%) ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ (-13.6%) ผลิตภัณฑ์ยาง (-12.1%) และ เม็ดพลาสติก (-11.4%) เป็นต้น 


ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 9.5%YoY โดยสินค้าเกษตรหดตัว 15.7%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 2.3%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (-43.1%)  ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (-28.8%) และเครื่องดื่ม (-19.9%) ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (+171.4%) เนื้อหาและส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่บริโภคได้ (+55.7%) และ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง (+20.3%) เป็นต้น

ส่งออกรายตลาดสำคัญขยายตัวในสหรัฐฯ-ยุโรป ขณะที่ตลาดจีนและญี่ปุ่นกลับมาหดตัวในเดือนนี้

- สหรัฐฯ: ขยายตัว 37.9%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 26 โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และรถยนต์ เป็นต้น

- จีน: หดตัว 7.8%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 14 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง เคมีภัณฑ์ และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น คอมพิวเตอร์ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง  และ ยางพารา      เป็นต้น

- ญี่ปุ่น: หดตัว 8.9%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ เครื่องจักรกล เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น  ทองแดงและของทำด้วยทองแดง อัญมณีและเครื่องประดับ และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น

- EU27: ขยายตัว 12.0%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อัญมณีและเครื่องประดับ และ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว  เช่น เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น

- ASEAN-5: ขยายตัว 5.7%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น

- มูลค่าการนำเข้าเดือน พ.ย. อยู่ที่ 30,172.5 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวสูงที่ 17.6%YoY เร่งขึ้นจาก 16.3%YoY เมื่อเดือนก่อน สินค้านำเข้าที่ขยายตัว เช่น อาวุธ ยุทธปัจจัย และสินค้าอื่น ๆ (69.7%YoY) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (29.7%YoY) เป็นต้น ในขณะที่สินค้านำเข้าที่หดตัว เช่น สินค้าเชื้อเพลิง  (-16.7%YoY) เป็นต้น ทั้งนี้ ดุลการค้าเดือน พ.ย. ขาดดุล 2,726.86 ล้านดอลลาร์ฯ

Krungthai COMPASS คาดว่าการส่งออกไทยในปี 2569 จะหดตัวจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยเต็มปี

-ในเดือน พ.ย. 2568 Momentum การขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนยังมีแนวโน้มแผ่วลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินค้ากลุ่ม Low Local Content1 ที่ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และกลุ่ม High Local Content ที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4  

-Momentum ของการส่งออกที่มีแนวโน้มแผ่วลง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม High Local Content ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับการผลิตและการจ้างงานภายในประเทศค่อนข้างสูงจะเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2569

ความเสี่ยงที่ต้องติดตามในปี 2569 ดังต่อไปนี้

(1) ความเร็วของการระบายสต็อกสินค้าของคู่ค้าสหรัฐฯ จากที่เคยเร่งนำเข้าในช่วงก่อนหน้ายังมีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้คำสั่งซื้อชะลอตัวลงเร็วหรือมากกว่าคาด

(2) การแข่งขันแย่งส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯ และตลาดอื่นๆ ที่ทดแทนสหรัฐฯ อาจรุนแรงกว่าคาด โดยต้องติดตามปัจจัยที่กำหนดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่ง การแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลกระทบเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.2568    ทำให้ราคาสินค้าไทยแพงขึ้นมากกว่าคู่แข่ง และทำให้กำไรในรูปเงินบาทลดลง

(3) ศาลสหรัฐอาจพิจารณาตัดสินให้มาตรการภาษี Reciprocal Tariff ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาษีลดลงชั่วคราว ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะผลักดันมาตรการทางการค้ากลับมาใช้ผ่านช่องทางกฎหมายอื่นต่อไป

 

-031

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top