วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
'อมรา' ควง 'เดวิด' เผยโมเม้นท์ป้าหลานสายฮา เคลียร์ข่าวหลังหายจากวงการไปนาน 10 ปี

'อมรา' ควง 'เดวิด' เผยโมเม้นท์ป้าหลานสายฮา เคลียร์ข่าวหลังหายจากวงการไปนาน 10 ปี

วันอังคาร ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 18.38 น.
Tag : เดวิด อัศวนนท์ อมรา อัศวนนท์ คุยแซ่บSHOW
  •  

อมรา อัศวนนท์ ตำนานนางงามบนเวทีนางงามจักรวาลคนแรกของเมืองไทย ที่วันนี้ขอควงหลานชาย  เดวิด อัศวนนท์ มาเปิดมุมป้าหลานน่ารัก พร้อมเปิดใจหลังห่างหายจากวงการนานนับ 10 ปี พร้อมเคลียร์ข่าวเม้าท์ ฆ่าตัวตายที่สิงคโปร์ ในรายการ “คุยแซ่บSHOW”  ที่มี  “พีเค” ปิยะวัฒน์ และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เป็นป้าหลานที่รักกันมาก คุยกันทุกเรื่องไหม 


อมรา : รักสิ ก็สนิทกันมากเพราะสมัยเขาหนุ่มๆ เขาหล่อมาก สาวๆ นี่ติดตรึม ถามว่าทำไมเราถึงสนิทกับเขาที่สุดเพราะว่าพี่น้องเรามีอยู่ 3 คน แล้วเดวิดเข้ามาปรึกษาเราว่าเขาชอบการแสดง แต่หลานคนอื่นไม่ชอบการแสดง ซึ่งเรารู้สึกว่าตอนนั้นเราหล่อมาก ตาคม จมูกนิด เราก็พาเขาไปแนะนำบริษัทโน้น บริษัทนี้ ทุกที่ก็บอกว่าหน้าตาดีแต่ไม่มีประสบการณ์ 

เดวิด : เวลาคุยกับคุณป้าเราก็ค่อนข้างเปิดอก คือเราเป็นนักแสดง ก็จะมีความเพี้ยนๆ คล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้นก็จูนกันง่าย คือผมชอบงานแสดงรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่าวงการแสดงมันเป็นวงการที่ลึกลับ เราไม่รู้หรอกว่าเราจะเข้ามาอย่างไร เราต้องติดต่อใคร ตอนนั้นมันก็ผ่านมา 20 ปีแล้ว ตอนนั้นป้าผมก็อายุ 60 กว่าแล้ว การรู้จักคนก็น้อยลงตามกาลเวลา เพราะผู้จัดก็เปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นการที่เราเข้าไปหา คนโน้นคนนี้ บริษัทโน้นบริษัทนี้มันก็ไม่มีใครสนใจเรา 

ไปมาหลายบริษัทแล้วไม่ได้ท้อบ้างไหม 

อมรา : ฉันก็ท้อ ฉันก็เสียใจ ก็เลยบอกให้เดวิดไปเรียนให้เก่งไปเลย คือเรารู้สึกว่าความหล่อ กับการแสดงนั้นมันเป็นเรื่องคนละเรื่อง ก็เลยปรึกษาเขาแล้วในที่สุดเขาก็ตัดสินใจไปเรียนการแสดงที่อเมริกา 

เดวิด : ไปเรียนการแสดงมาก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าเป็นความสำเร็จได้หรือเปล่า แต่เราก็มีงานทำเรื่อยๆ แค่มีงานทำก็เป็นบุญแล้ว 

ทีมงานบอกว่าเดวิดตามใจป้าทุกอย่าง 

เดวิด : มันปฎิเสธยาก เพราะเขาอายุมากกว่าเรา อันนี้ไม่ใช่หลอกด่าว่าแก่นะ คือเขาอาวุโสกว่า จริงเราก็ไม่ถนัดออกรายการทอร์คโชว์ ด้วยความที่เราเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ซึ่งบางทีเราพูดอะไรไปในรายการสด เราเอาคืนกลับมาไม่ได้ เราก็กลัวพูดอะไรผิดพลาด 

หลายคนทักผิดว่าเป็นแม่ลูก

เดวิด : คือคนเข้าใจผิดมากเหมือนกัน คือพ่อผมเป็นน้องของคุณป้า 

วันที่เดวิดได้ตุ๊กตาทอง คุณอมราภูมิใจกับหลานคนนี้ขนาดไหน 

อมรา : ภูมิใจมากอัศวนนท์ แล้วเขาก็เป็นหลานเราแท้ๆ และหลานคนนี้ไม่เคยทำให้เราเสียใจเลย ทำแต่ภูมิใจ จริงๆ เราก็อยากให้ลูกมาเอาดีด้านการแสดง แต่ลูกเราไม่มีใครเอาเลย ถามว่าดันเขาไหม ก็เชิงดัน เพราะเขาชอบ แล้วถ้าได้ทำสิ่งที่ชอบคนเรามันทำได้ดีเพราะมันไม่ฝืนความรู้สึก แล้วเราก็เห็นแววของเขาด้วย  

เดวิดโลกส่วนตัวสูงจริงไหม 

อมรา : สูง... มากเลย ใครซื้อเขาไม่ได้ รักใครรักจริง เกลียดใครเกลียดจริง แต่ถ้าเขาทำอะไรไม่ดีเราก็มีว่าเขา คือเขาชอบพูดจาไม่ดี เราก็จะบอกให้เขาพูดจาให้ดี ให้สุภาพเขาก็จะเถียงว่าเป็นคาแรกเตอร์ของเขา คือเราเป็นคนยุคเก่า ตอนนี้ก็อายุ 86 ปีแล้วยุคนั้น ก็มีแต่คนเรียบร้อย แต่ตอนนี้ ยุคสมัยมันเปลี่ยน มันก็ศัพท์บางคำที่เราฟังแล้วก็ช็อคๆ บ้างเพราะเราเป็นคนโบราณ บางครั้งเราก็เลยต้องเตือนเขา

เดวิด : คือเราติดสบถ คือคนเรามันต้องใช้ชีวิตจริง เวลาคุยกันเราก็ต้องมีการใช้อารมณ์ ซึ่งผมเชื่อว่าใครๆ ก็เป็น แล้วผมเป็นคนที่ไม่ปฎิเสธความรู้สึกของตัวเอง ใครที่ดีผมก็คือดี ใครที่แย่มาก เราก็จะพูดตามเนื้อผ้า 

อยากทราบว่าทำไมไม่อยากมีลูก

อมรา : คือเราเคยพูดกับเขาว่าถ้าเดวิดมีลูก แล้วได้ลูกสาวแล้วฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะดันเป็นนางสาวไทย เราคิดว่าถ้าลูกสาวหน้าเหมือนเดวิดจะต้องสวยมาก  แต่เขาบอกว่าชาตินี้เขาจะไม่มีลูก

ซึ่งทุกวันนี้เขาก็ยังคิดอย่างนั้น 

เดวิด : เรามีความรู้สึกว่าเราเกิดมาชีวิตมันเหนื่อยเหลือเกิน เพราะมันต้องต่อสู้อะไรหลายๆ อย่าง ตั้งแต่เด็กจนโตขึ้นมาเราต้องต่อสู้กับโลกภายนอกและโลกภายใน กว่าจะหาความสมดุลย์ได้มันยากลำบากมาก มันต้องใช้เวลา แล้วช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมันสามารถหลงผิดได้ช่วงไหนก็ไม่รู้ แล้วสังคมทุกวันนี้กับที่ผ่านมามันก็ไม่ดีขึ้น ดูได้จากข่าวมันหดหู่มากเลย สภาวะเศรษฐกิจ รัฐบาลทั่วไปของโลกใบนี้มันไม่ได้ก่อตัวเพื่อประชาชน มันคือผลประโยชน์ส่วนตัว อันนี้ผมไม่ได้ว่าใครอะไรทั้งสิ้น ผมก็เลยรู้สึกว่ามันอยู่ยาก แล้วโลกสมัยนี้กับการเป็นคนดี คนก็มองว่าโง่เพราะโดนเอาเปรียบ แล้วผมก็รู้สึกว่าผมไม่ได้มีหน้าที่อะไรที่จะต้องสืบสายพันธ์บนโลกใบนี้  ผมก็เลยรู้สึกว่าไม่มีดีกว่า 

คืออยากดันเหลนเป็นนางงาม

อมรา : คือเราเห็นใครสวยๆ เราก็จะสนับสนุน เพราะเราอยากให้ประเทศไทยมีคนสวยๆ ถามว่าเพราะอยากแก้มือไหมก็ไม่ใช่นะ แต่เพราะเรามองว่ามันเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่ง ที่เราสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย สมัยที่เราไปไม่ได้ใช้ว่าประเทศไทยนะยังใช้ชื่อว่าสยามอยู่เลย คือตอนนั้นเราตอนอายุ 17 ปี ตอนนี้ 86 แล้ว 

ถือเป็นตำนานนางงาม 

อมรา : คือตอนที่เราประกวดนางสาวไทยเราได้อันดับ 4 คือธรรมดามิสยูนิเวิร์ดเขาต้องเชิญนางสาวไทย แต่เขาพร้อมที่จะไป คนที่สองที่สามเขาก็ไม่พร้อมเพราะต้องไปด้วยทุนทรัพย์ตัวเอง เพื่อเดินทางไปประกวดที่อเมริกา ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่อเมริกามีการ์ดเชิญมา คือตอนนั้นเราไปทางเรือ ใช้เวลาเดินทาง 21 วัน  จากฮ่องกงเป็นเรือใหญ่เดินทางสบายมาก พอเดินทางไปถึงญี่ปุ่น นางสาวญี่ปุ่นเขาก็มาต้อนรับเรา แล้วก็ไป โฮโนลูลู แล้วก็ไปซานฟราน ที่บ้านสนับสนุนเพราะคุณพ่อเป็นสปอนเซอร์ให้ ยังให้น้องชายไปด้วย ถามว่าตื่นเต้นไหม ก็ตื่นเต้น เพราะเรามาจากมาแตร์เดอี ไปประกวด ก็ต้องออกจากมาแตร์ก่อนถึงจะไปประกวดได้ พอหลังจากประกวดก็คิดจะไปเรียนต่อ ทางโรงเรียนก็ไม่ให้เรียนต่อเพราะทางโรงเรียนบอกว่าเด็กที่ประกวดนั้นใจแตก คือสมัยนี้เขาสนับสนุนแต่สมัยนั้นมันไม่ใช่ แต่ก็ถือเป็นโชคดีที่ได้ไป เราก็รู้สึกสนุกดี เราโชคดีที่เราสามารถพูดอังกฤษและภาษาฝรังเศสได้ตั้งแต่เด็ก ๆ คุณแม่เราเป็นคนฝรั่งเศส 

แล้วตอนเจอนักข่าวครั้งแรกเป็นอย่างไร 

อมรา : จำได้ว่าตอนที่เจอนักข่าวนั้นเราใส่กระโปรงบานยาวครึ่งหน้าแข้ง เป็นแบบสุ่ม ก็เป็นชุดสมัยก่อนนะ พอเราไปถึงนักข่าวก็จะวิ่งขึ้นมาที่เรือ แล้วก็สัมภาษณ์ เราตอบได้ก็สบายใจ พอตอนถ่ายรูป ก็มีคนถกกระโปรงเราขึ้นถึงขาอ่อนเราก็ตกใจรีบเอาลง เขาก็บอกว่าเดี๋ยวพอประกวดคุณก็ต้องโชว์  เราก็ตกใจเพราะเรายังเด็กมากอายุ 17-18  เท่านั้นเอง 

กลับมาเมืองไทยฮอตขนาดไหน 

อมรา : ตอนนั้นดัง มีคนมาจีบเยอะ คือตอนที่เรากลับมาอายุ 18 แล้ว เพราะพอประกวดเสร็จเราไม่ได้กลับทันที เพราะเขาให้เราไปโชว์ตัว กว่าจะกลับจากประกวดมิสยูนิเวิร์ดก็ 3 เดือน พอกลับมาคุณพ่อจะให้ไปเรียนเสริมสวยที่ฝรั่งเศส เพราะคุณป้าอยู่ฝรั่งเศส แต่มีงานหนังเข้ามาก่อน ก็เลยเริ่มอาชีพนักแสดงตั้งแต่นั้น 

เดวิด : ตอนที่คุณป้าดังๆ เรายังเด็กมากผมอายุประมาณ 8 ขวบ แต่พอโตขึ้นมาก็ทราบว่าป้าเราเป็นดาราที่ดังมาก คือเพื่อนที่โรงเรียนมาทักว่า เป็นอะไรกับอมรา ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังถามอยู่ เราก็ภูมิใจคุณป้ามาก เพราะท่านก็ดังระดับประเทศ 

ทำไมทั้งคู่ชอบได้รับบทร้าย 

อมรา : คือหนังเรื่องแรก “รักริษยา” ของเราก็ได้รับบทร้าย แต่เชื่อไหม ขนาดไม่ได้เล่นหนังมาเป็นสิบปี ก็จะมีคนทักว่าใช่ไหม แต่ส่วนใหญ่คนจะเสียงได้ก็ไม่รู้ว่าเสียงเรามีความพิเศษอย่างไร  

เดวิด : ส่วนผมคนบอกผมว่าผมหน้าดุ ตาดุ

คนมองเลือกงานหรือเปล่า

อมรา : เราก็ไม่ได้เลือกนะ ส่วนบทที่ไม่เล่นคือ ถ้าออกมาฉากเดียวแล้วตายเราก็ไม่อยากเล่น ถามว่าหลานชายมีปรึกษาเรื่องการแสดงไหม ไม่มีนะ คือการแสดงของเรา เราก็ไม่เคยเรียนการแสดง เราโชคดีที่ได้ผู้กำกับดี ผู้กำกับก็สอนว่าเวลาแสดงเราต้องมีอารมณ์ร่วมแววตาต้องได้  

เดวิด : ส่วนผมก็ไม่เคยไปขอคำปรึกษาเรื่องการแสดงกับคุณป้าเลย ที่ไม่ขอคำปรึกษาไม่ใช่เราเก่งนะ เพียงแต่เราเรียนมาจากที่ต่างประเทศ เขาสอนวิธีทำให้เราได้ใกล้ชิดตัวละครมากที่สุดแล้ว เราก็เลยไม่ได้รู้สึกงง หรือต้องขอคำปรึกษาอะไร 

มีช่วงหนึ่งหายหน้าหายตาจากวงการไปเป็น 10 ปี 

อมรา : คือตอนนั้นสามีเป็นมะเร็งตับ ก็ต้องมีการรักษา ต้องดูแลทั้งเรื่องยา เรื่องอาหาร ตอนนั้นหมอให้เวลา 3 เดือนเราก็ดึงมาได้ 2 ปี คือเราไม่อยากทิ้งเขาเพราะเรารู้ว่าเขาไม่อยู่กับเรา เราก็อยากดูแลเขามากที่สุด และใช้เวลากับเขามากที่สุดเท่าที่จะมากได้ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากสุดในชีวิต เพราะพอต่อหน้าเราก็ต้องให้กำลังเขา เขากินอะไรเราก็ต้องกินเป็นเพื่อนเขา พอเขาหลับเราก็นั่งร้องไห้ มันเศร้าใจเพราะมันต้องจากกันแล้ว มันเป็นช่วงที่ทรมานมาก เพราะตอนนั้นแม้แค่เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเราก็อยากอยู่กับเขา 

มีข่าวว่าคุณอมรากระโดดตึกที่สิงคโปร์ฆ่าตัวตาย 

เดวิด : ตอนข่าวนี้ออกมาผมขำมาก ตอนมีคนโทรเข้ามาผมก็ถามกลับว่าอะไรเพราะมันไม่ใช่ มันเป็นไปไม่ได้  ผมไม่เชื่อ และไม่ได้สนใจ เพราะเรารู้ทันว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น 

อมรา : คือตอนนั้นเราเป็นสมาชิกโรตาลี่ที่ลาดพร้าวแล้วเขาก็เชิญเราเดินทางไปทั่วโลก เป็นจังหวะที่เราไปต่างประเทศพอดี แต่ตอนนั้นเราไปเกาหลี เราไม่ได้ไปสิงคโปร์แต่มาทราบทีหลังว่ามีคนกระโดดตึกจริงแต่เป็นผู้ชาย แต่ลูกชายกับลูกสาวตกใจมากเขาก็โทรมาถามพอเขาได้ยินเสียเขาก็ดีใจ เพราะมันไม่มีเหตุผล พอเรากลับมาก็มีแต่คนถามว่าใครปล่อยข่าว เราก็บอกว่าเราไม่รู้ช่อง 9 ก็เชิญไปสัมภาษณ์ว่าโกรธไหม เราก็บอกว่าไม่โกรธ  บางคนก็แนะนำให้ฟ้อง เราก็ไม่ได้ฟ้อง และไม่รู้ด้วยว่าใครทำ  เราเกิดมายากจะตายให้มันตายตามวัยไม่ดีกว่าเหรอ  

ความสุขของชีวิตคืออะไร 

อมรา : ความสุขของชีวิตก็คือแต่งงาน เพราะเราได้แต่งงานกับคนที่เรารัก

เดวิด : คือการเจอคู่ชีวิตที่ดี เพราะเรารู้จักคนหลายคนที่ยังไม่เจอคนที่ใช่ พอไม่เจอคนที่ใช่ก็จะมีความเหนื่อย ความล้า ความท้อ เพราะฉะนั้นถ้าเราเจอคนที่ใช่แล้ว เวลามีความสุขมันก็คูณสอง พอเจอทุกข์มันก็หารสอง พอเราเจอคนที่ใช่ โลกทั้งโลกอาจจะต่อต้านเราแต่เราไม่แคร์ เพราะเรามีคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตให้กำลังใจ รู้จักเราแล้วรักเราจริง 

ติดตามชมรายการ “คุยแซ่บShow”  ได้ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'อิงฟ้า\'เผยภาวะอารมณ์สวิงจากการทำงานหนัก จนวางแผนเกษียณ!? 'อิงฟ้า'เผยภาวะอารมณ์สวิงจากการทำงานหนัก จนวางแผนเกษียณ!?
  • \'ดอม เหตระกูล\'เปิดตำนานคุย 6 วันขอแฟนแต่งงาน พร้อมเล่าร่วมงาน\'ลิซ่า\' 'ดอม เหตระกูล'เปิดตำนานคุย 6 วันขอแฟนแต่งงาน พร้อมเล่าร่วมงาน'ลิซ่า'
  • \'กุ้ง สุธิราช-จิ้งหรีดขาว\'เปิดคำพูดสุดท้ายของแม่ ส่ง\'วิ วิรดา\'จากไปอย่างสงบ 'กุ้ง สุธิราช-จิ้งหรีดขาว'เปิดคำพูดสุดท้ายของแม่ ส่ง'วิ วิรดา'จากไปอย่างสงบ
  • \'เบสท์ ชนิดภา\'เปิดโปงกลลวงมิจฉาชีพ ปั่นหัวหลอกโอนเงินกว่า 1.2 ล้าน ช้ำถูกบูลลี่ สมน้ำหน้า สวยแต่ไม่ฉลาด 'เบสท์ ชนิดภา'เปิดโปงกลลวงมิจฉาชีพ ปั่นหัวหลอกโอนเงินกว่า 1.2 ล้าน ช้ำถูกบูลลี่ สมน้ำหน้า สวยแต่ไม่ฉลาด
  • \'ไชยา มิตรชัย\' ควงลูกสาว \'แป้ง มิตรชัย\' เปิดตัวแฟนหนุ่มครั้งแรก หลังคบกันมา 10 ปี 'ไชยา มิตรชัย' ควงลูกสาว 'แป้ง มิตรชัย' เปิดตัวแฟนหนุ่มครั้งแรก หลังคบกันมา 10 ปี
  • \'กัน จอมพลัง\'พาลูกลุงป้าคู่กรณี BMW ทวงความยุติธรรม 'กัน จอมพลัง'พาลูกลุงป้าคู่กรณี BMW ทวงความยุติธรรม
  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved