“อัจฉริยะ”ลงเรือสปีดโบ๊ทร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ จำลองภาพถ่าย “กระติก-แตงโม” ยันยังมุ่งเป้าฆาตกรรมอำพราง ด้าน“กระติก”เข้าแจ้งความตร.ไซเบอร์ เอาผิดมือโพสต์ภาพกล่าวหาคนบนเรือลำเกิดเหตุ ส่งวีดีโอคอลภาพลับแตงโม ส่วนมารดาแตงโมรับร่างไปจัดพิธีฌาปนกิจที่คริสตจักรฯ ก่อนบรรจุเถ้ากระดูก
เมื่อวันที่ 24พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) หรือแตงโม พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง วัย 37 ปี ภายหลังอัยการจังหวัดนนทบุรี สั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพฤติกรรมของผู้ต้องหาบนเรือสปีดโบ๊ทลำเกิดเหตุกระทั่งมีการแจ้งข้อหาร่วมกันกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก , นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ตและนายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบส่วนนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ เข้ารับทราบข้อหาเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ว่านายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญของชมรมฯ ได้ลงเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือเทเวศน์ ไปยังใต้สะพานพระราม 8 เพื่อทดสอบถ่ายภาพนำมาเปรียบเทียบกับรูปถ่ายของ น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก และแตงโม ที่ถ่ายในวันเกิดเหตุ ก่อนแตงโม จะตกเรือ
ทั้งนี้ มีทั้งรูปที่ถ่ายเดี่ยวและรูปที่ถ่ายคู่กัน หลังจากตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการแก้ไข ตัดต่อรูปภาพหรือไม่ โดยเริ่มต้นการทดสอบจุดแรก บริเวณกลางแม่น้ำใกล้สะพานพระราม 8 และวนอยู่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ซึ่งนายอัจฉริยะนั่งหัวเรือ และให้ผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบ ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มีรูป 3 รูปที่ต้องพิสูจน์ คือรูปกระติก แตงโม และนักข่าวช่องหนึ่ง ซึ่งฉากหลังมีต้นไม้กับป้ายโฆษณา ดังนั้นจึงลองทดสอบว่าความสูงของป้ายกับต้นไม้สัมพันธ์กันหรือไม่ พบว่าสัมพันธ์กัน ไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนจะเป็นรูปตัดต่อหรือไม่นั้น ทีมงานพิสูจน์แล้วว่าไม่ง่ายที่จะตัดต่อ แต่สิ่งที่อาจเป็นไปได้คือการแก้ไขเวลาถ่ายภาพในรูปเดี่ยวกระติก เพราะเมื่อเทียบไทม์ไลน์จีพีเอสเรือ เป็นไปไม่ได้ที่จะย้อนกลับมาถ่ายรูปดังกล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจแถลงข่าวสรุปคดีนี้ โดยตำรวจยืนยันว่าตรวจสอบแล้วภาพไม่ได้ตัดต่อ แต่ไม่ได้พูดถึงกรณีแก้ไขเวลา ซึ่งตัวแทนผู้เชี่ยวชาญยังยืนยันว่านอกจากวันเวลาถ่ายรูปแล้ว หากนำรูปไปเข้าซอฟแวร์ในคอมพิวเตอร์ สามารถแก้ไขได้ยันตำแหน่งจีพีเอสที่ถ่ายรูปก็ทำได้เช่นกัน
ประธานชมรมฯ กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าจะใช้โดรนใต้น้ำแสกนหาอาวุธมีด ที่เชื่อว่าอาจเป็นอาวุธที่กรีดขาแตงโม โดยจะไล่หาตั้งแต่สะพานกรุงธน หรือสะพานซังฮี๊ ถึงสะพานพระราม 8 แบบสแกนเรียงหน้ากระดาน คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน จะหาอาวุธให้พบและนำไปตรวจหาดีเอ็นเอต่อไป พร้อมกับยืนยันว่ายังคงมุ่งเป้าไปที่การฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากมีหลักฐานเป็นคลิปทำร้ายร่างกายกันบนเรือ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่ยกเลิกนำพยาน 2 ปากเข้าให้ปากคำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอเนื่องจากตนรู้สึกว่าดีเอสไอไม่อยากทำคดีนี้แล้ว เพราะหากอยากทำจะต้องเป็นฝ่ายติดต่อมาทางชมรมฯ เพื่อขอให้นัดพยาน แต่ที่ผ่านมาดีเอสไอไม่เคยติดต่อมาเลย มีแต่ทางชมรมฯ ติดต่อไป แต่ดีเอสไอก็ไม่เคยรับสาย ดังนั้นจึงตัดสินใจไม่ยื่นให้ดีเอสไออีกต่อไป แต่ยังคงเดินหน้าต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับแตงโม
สำหรับกรณีที่ น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติกจะฟ้องดำเนินคดีกับตนก็ขอให้รีบฟ้อง ตนรออยู่ อย่าคิดว่ามีนักการเมืองหนุนหลังแล้วจะซ่าได้
นายอัจฉริยะ กล่าวถึงกรณีมีคนที่ใช้เฟซบุ๊กแตงโมเผยแพร่ภาพในโทรศัพท์มือถือของแตงโมนั้น แม้ว่านางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาแตงโมระบุว่ามีคนที่รู้บัญชีและรหัสไอคลาวน์ของแตงโมเพียง 3 คนเท่านั้น คือ น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก , แอนนา และบุคคลอีกคนหนึ่ง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าคนที่เล่นเฟซบุ๊กแตงโม อาจจะไม่ใช่ 3 คนนี้ก็ได้ ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีบัญชีและรหัสผ่านตอนที่มีการกู้ข้อมูลโทรศัพท์มือถือของแตงโม และต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโม
วันเดียวกัน น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน บช.สอท.หรือตำรวจไซเบอร์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่โพสต์ภาพและข้อความ กล่าวหาตนเองและบุคคลในเรือสปีดโบ๊ทลำเกิดเหตุคดีแตงโม พร้อมกับขอให้ตำรวจ บช.สอท.สืบสวนกรณีมีบุคคลปริศนา วีดีโอคอลผ่านไลน์มาหาตนเอง หลังจากไปออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 พร้อมกับส่งภาพลับแตงโม มาให้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น
ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.กล่าวว่า น.ส.อิจศรินทร์ แจ้งความเอาผิดผู้ที่นำภาพไปเผยแพร่บนเฟซบุ๊กส่วนตัวของแตงโม ก่อนจะมีเพจเฟซบุ๊กเปิดขึ้นมาใหม่ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีข้อความปรากฎในลักษณะที่ประชาชนอาจเข้าใจผิดต่อบุคคลบนเรือได้ โดยเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 16 นำภาพผู้อื่นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และภาพอาจเกิดจากการสร้างขึ้นหรือตัดต่อ
พล.ต.ท.กรไชย กล่าวต่อว่า กรณีนี้เป็นคนละกรณีกับคดีที่ จ.นนทบุรี แต่เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับสื่อสังคมออนไลน์ บช.สอท.จึงมอบหมายให้ บก.สอท.1 รับเรื่องไว้ตรวจสอบตามขั้นตอน อย่างไรก็ดี คดีทั้งหมดยังไม่เกี่ยวข้องกับนางภนิดา มารดาแตงโม จึงยังจะไม่เชิญมาสอบปากคำ เว้นแต่เจ้าตัวต้องการให้ตำรวจตรวจสอบก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบผู้ใช้เฟซบุ๊กของแตงโมว่าเป็นผู้ใดนั้น ผบช.สอท.กล่าวว่า ได้รับความร่วมมือกับเฟซบุ๊กประเทศไทยเป็นอย่างดี เชื่อว่าอีกไม่กี่วันจะทราบตัวผู้กระทำ ซึ่งบุคคลดังกล่าวอาจเข้าถึงรหัสบัญชีต่างๆ ของแตงโม ทำให้สามารถไปเอาภาพได้ หากเป็นความผิดนอกราชอาณาจักรนั้นจะเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ที่จะดำเนินการ ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนอย่าไปกดลิงค์ที่มิจฉาชีพโพสต์ไว้บนเพจปลอมของแตงโม
ขณะที่ น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก หลังจากแจ้งความและให้ปากคำพนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ได้เดินทางกลับทันที โดยกล่าวกับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอติดตามทำข่าวเพียงสั้นๆ ว่าจะรีบไปร่วมงานฌาปนกิจศพแตงโม โดยจะขอไปให้รายละเอียดต่างๆ ที่แจ้งความครั้งนี้ ในงานฌาปนกิจศพแตงโม
อีกด้านหนึ่ง ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นางภนิดา ได้นำเอกสารเดินทางมาติดต่อรับศพแตงโม ไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่คริสตจักรเมธอดิสท์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีเบิร์ด เทคนิค แฟนหนุ่มของแตงโม ร่วมเดินทางมาด้วย ต่อมารถตู้บริษัทสุริยาหีบศพ ได้เคลื่อนศพแตงโม ที่บรรจุในหีบจัดทำพิเศษ ไปถึงคริสตจักรดังกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนในพิธีฌาปนกิจนั้นนางภนิดา ได้กล่าวไว้อาลัย ก่อนจะมีการร้องเพลงคริสเตียน กล่าวถึงประวัติของแตงโม และมีเทศนาจากศาสนาจารย์ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ประธานมูลนิธิคริสตจักรคณะแบ๊บติสต์ จากนั้นจึงนำร่างแตงโมเข้าอุโมงค์เผา โดยกระดูกของแตงโม จะถูกนำไปเก็บไว้ที่ระเบียงอาลัย โดยอยู่ในโซนกัลปังหาช่องหมายเลข 9 ติดกับช่องหมายเลข 10ซึ่งเป็นช่องเก็บกระดูกของนายโสพล พัชรวีระพงษ์ บิดาของแตงโม ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี