หลังจากที่ผ่านสงครามครั้งใหญ่ใน อเวนเจอร์ส : เผด็จศึก(Avengers : Endgame) (2019) และมีหนังเป็นของตัวเองมาแล้วถึง 3 ภาค “ธอร์” กลับมาอีกครั้งในหนังของตัวเองธอร์ ด้วยรักและอัสนี (Thor Love and Thunder) เดินเรื่องต่อจากทั้ง อเวนเจอร์ส : เผด็จศึก (Avengers : Endgame) และในภาค 3ธอร์ 3 : ศึกอวสานเทพเจ้า (Thor 3 Ragnarok) (2017) ที่ตัวละครหลักๆที่ยังเหลืออยู่หลังแอสการ์ดล้มสลายกลับมาอีกครั้งมาดูความรักความสัมพันธ์ที่ยาวนานมาจากภาคแรก ของ ธอร์ กับ เจน ฟอสเตอร์ภารกิจของ ธอร์ ที่ครั้งนี้ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับบรรดาทวยเทพทั้งสวรรค์(ที่ไม่เกี่ยวกับแอสการ์ด)
ธอร์ ด้วยรักและอัสนี (Thor Love and Thunder) มาพร้อมกับบทหนังที่อ่อนปวกเปียก การเดินเรื่องที่ง่ายๆ แทบจะไม่มีอะไรที่เซอร์ไพรส์ไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีหักมุมใดๆ ทั้งสิ้น ฉากรักที่ดูผิวๆ ดราม่าก็ดูตื้นๆ แถมยังพยายามนำมุขตลกแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ เพียงแต่มุขที่ใส่เข้ามาส่วนใหญ่มันแป้กไม่ขำ แต่เพราะเป็นหนัง “มาร์เวล” หนังที่นักแสดงเล่นได้แบบน่ารัก โปรดักชั่นดีงามเลยพอที่จะมองข้ามสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไปดูได้จนจบ
ช่วงฉากสภาสวรรค์ ทำออกมาได้ดูยิ่งใหญ่ อลังการงานสร้างตามที่เคยจินตนาการตอนอ่านเทพนิยายกรีก แต่เพียงบรรดาทวยเทพที่มาร่วมประชุม มันดูประหลาดๆ ลดความน่าเชื่อถือ ดูตลกขบขัน เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ไม่ชอบภาคนี้
คริส เฮมส์เวิร์ท ยังคงเป็น ธอร์ ที่คุ้นตากันดี เห็นกันจนชินตามาหลายภาคหลายตอน แต่ที่ดูฉีกออกไป คือ ในภาคนี้ ธอร์ ออกจะดูสบายๆ ไปในทางเฮฮามากกว่าจริงจัง ไม่ดูขึงขัง ดราม่าก็ไม่เยอะ ยังดีที่ฉากเข้าพระ-เข้านางออกมาดูดีไม่สะดุด
นาตาลี พอร์ตแมน คือ สิ่งที่ดีงาม และน่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดใน ธอร์ ภาคนี้ เล่นแบบน่ารักไปหมดไม่ว่าจะเป็น เจน ฟอสเตอร์ที่ดูดีกว่าในตอนก่อนๆ หรือแม้แต่ตอนเป็น ไมตี้ธอร์ ที่เพิ่มความสวยสง่า เมื่อสวมชุดนักรบ บทให้ภาคนี้เด่นตีคู่กับ ธอร์ มาเลย ดูแล้วอินทั้งบทกุ๊กกิ๊ก ดราม่า รัก โรแมนติก บู๊ หรือแม้อารมณ์เรียกเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม
เทสซ่า ธอร์มสัน กลับมารับบทเดิม ราชาวัลคิรี่ ที่มีลูกล่อลูกชนดูสวยน่ารักในแบบสาวผิวดำลุยๆ เป็นตัวละครเสริมที่ทำให้ยิ้มได้ในแทบจะทุกฉาก
ไทก้า ไวทีที นอกจากจะกำกับ “ธอร์” ภาคนี้แล้ว ยังมารับบท“คอร์ก” มนุษย์หิน บทเดิมจากในภาคที่แล้วอีกด้วย
คริสเตียน เบลล์ ในบท กอร์ ในรูปลักษณ์ ที่ไม่บอกก็จำไม่ได้เป็นตัวร้ายที่ออกมาดูกึ่งๆ ผีดิบ ดูซาดิสม์โหดร้าย เขาเล่นได้ดีตามมาตรฐาน
รัสเซล โครว์ มาน้อยต่อยหนัก ในบท ซูส ที่ดูเจ้าเนื้อ บุคลิกออกไปในแนวตลก แทบจะไม่เหลือความเป็นเทพเจ้าฟ้าแลบผู้ยิ่งใหญ่ในเทพนิยายกรีกที่คุ้นๆ กันดี นอกจากนักแสดงที่โอเคแล้ว หนังสนุกไปกับบรรดาอาวุธทั้งหลายที่ดูมีชีวิตชีวา จนกลายเป็นตัวละครที่เด่นไม่แพ้บรรดาคนคนทั้งหลาย
ถ้าตัดบาดแผลสิ่งที่ดูขัดตาแย่ๆ ออกไป “ธอร์ ด้วยรักและอัสนี (Thor Love and Thunder)” ยังคงเด่นดูดีไปกับงานโปรดักชั่น เอฟเฟกท์ซีจีสุดยอดสมจริงสมจัง งานด้านภาพ การตัดต่อ รวมไปถึงดนตรีประกอบ หนังเลิกอย่าเพิ่งลุกในช่วงเอนเครดิต หนังมี 2 ติ่งเล็กๆ มาให้ยิ้มกันก่อนกลับ มานิดๆ แต่รับรองยิ้มออก โดยรวมๆ แล้วอาจจะไม่ค่อยปลื้มมากนักแต่เพราะความเป็นหนังมาร์เวล หนังก็ไม่ได้แย่ แค่รู้สึกไม่สนุกมากนัก ก็เลยดูได้แบบเพลินๆ ชอบระดับ 7+2/10 คะแนนครับ(2 คะแนน ให้กับ นาตาลี พอร์ตแมน ไมตี้ธอร์ โดยเฉพาะ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี