ผ่านไป 3 สัปดาห์แล้วกับความอลังการ ที่เรานำมาเสนอให้กับท่านที่ชื่นชอบ ศิลปินดารานักร้องเก่า ที่เราเรียกคอลัมน์นี้ว่า RETRO
นั่นคือช่วงเวลาของการฉลอง 74 ปีให้กับวงดนตรีที่มีคนรู้จักหัวหน้าวงในระดับโลก ครูเอื้อ สุนทรสนาน
ท่านเป็นทั้งศิลปินแห่งชาติ และบุคคลดีเด่นด้านวัฒนธรรมของโลก ที่คนไทยยอมรับกับความเป็น สุดยอดของศิลปินอย่างแท้จริง
และจากนี้ไป “บันเทิงแนวหน้า” กับ “มูลนิธิสุนทราภรณ์” โดย “หมึกดำ” บรรณาธิการฝ่ายข่าวบันเทิง กับ คุณ อติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ จะส่งความสุขให้กับ แฟน RETRO เปิดตัวศิลปินที่นับเป็นสมาชิกทั้งการก่อตั้งวงสุนทราภรณ์ หลากหลายรุ่นให้อ่านกัน
สัปดาห์นี้พบกับ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี (ข้อมูลรวบรวมจากหนังสือรวมเพลงต่างๆ ของสุนทราภรณ์)
เพ็ญศรี พุ่มชูศรี เกิดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2472 ที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นบุตรีของนายผิว พุ่มชูศรี และนางทรัพย์ นิลสุวรรณ (บางตำราว่า มารดาชื่อ นางจันทร์ พุ่มชูศรี) เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโลก แล้วจึงย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานคร
โดยมิได้เรียนต่อ เพ็ญศรี เริ่มเข้าประกวดร้องเพลงตามงานวัด ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยใช้นามว่า "ผ่องศรี พุ่มชูศรี" เพลงที่ใช้ร้องไม่ทราบชื่อ แต่มีเนื่อท่อนหนึ่งว่า ...เรือน้อยที่ปล่อยลอยไว้... คุณเพ็ญศรีเริ่มต้นฝึกหัดร้องเพลงกับครูศิวะ วรนาฏ (ชิน เนียวกุล) เมื่อปี พ.ศ. 2484 และได้บันทึกแผ่นเสียงเพลง ศิลธรรมทั้งห้า
ขณะอายุ 12 ปี โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "เด็กหญิงเพ็ญศรี พุ่มชูศรี" และใช้ชื่อนี้ในการขับร้องเพลงเรื่อยมา จนมาถึงปี พ.ศ. 2487 จึงเข้าเป็นนักร้องประจำวงดนตรีกรมโฆษณาการซึ่งมี ครูเอื้อ สุนทรสนาน เป็นหัวหน้าวง และได้บันทึกแผ่นเสียงเป็นจำนวนมากเรื่อยมา เช่น เพลงศรกามเทพ ยาใจยาจก เดือนครึ่งดวง หงส์เหิร และเพลงพรพรหม
ปี พ.ศ. 2490 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้คุณเพ็ญศรีขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์เพลง "สายฝน" ซึ่งเพิ่งได้ทรงพระราชนิพนธ์เอาไว้ก่อนหน้านั้นไม่นาน โดยเป็นการร้องสดในรายการบรรเลงดนตรีรายการหนึ่ง หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2491 จึงได้ขับร้องเพลงนี้บันทึกแผ่นเสียง ในนามวงดนตรีสุนทราภรณ์ โดยได้รับพระบรมราชานุญาต นับเป็นการบันทึกเสียงบทเพลงพระราชนิพนธ์ เป็นแผ่นเสียงแผ่นแรก ซึ่งยังวางจำหน่ายในรูปแบบของ CD อยู่จนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อมาอยู่กรมโฆษณาการแล้ว ได้เปลี่ยนชื่อเล่นเป็น "โจ๊ว" ตามคำว่า "ฮุดโจ๊ว" ซึ่งแปลว่า พระจีน เนื่องจากเพ็ญศรีชอบใส่ชุดสีเหลืองร้องเพลง ด้วยรูปร่างอ้วนกลม เมื่อ มัณฑนา โมรากุล ศิลปินรุ่นพี่เห็นจึงเรียกว่า "ฮุดโจ๊ว" แล้วกลายเป็น "โจ๊ว" ในที่สุด
คุณเพ็ญศรีลาออกจากราชการเมื่อปี พ.ศ. 2495 เพื่อเข้าร่วมงานกับละครคณะชุมนุมศิลปิน ซึ่งเป็นคณะละครเวทีของรพีพร หรือชื่อจริงคือ คุณสุวัฒน์ วรดิลก รับหน้าที่ทั้งร้องเพลงประกอบและร่วมแสดง ในเวลาต่อมาได้เกิดความรักกับ คุณสุวัฒน์ และสมรสกัน ในช่วงนี้แม้ว่าจะลาออกจากราชการไปแล้ว แต่ ครูเอื้อ สุนทรสนาน ก็ยังให้ไปบันทึกเสียงบทเพลงสุนมราภรณ์อยู่เสมอ
ในปี พ.ศ. 2506 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน จากเพลง "วิหคเหิรลม" และเพลง "ม่านไทรย้อย" ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศแผ่นเสียงทองคำพระราชทานจากเพลง "ง้อรัก"
เพ็ญศรีได้จัดตั้งโรงเรียนสอนการร้องเพลงเล็กๆขึ้นชื่อว่า "ศกุนตลา" เปิดสอนให้แก่บุคคลทั่วไปที่สนใจการขับร้อง ทำให้มีนักร้องใหม่ๆ ที่มีความสามารถเกิดขึ้นมาหลายคน นอกจากงานสอนร้องเพลงแล้ว เธอยังได้รับเชิญให้ไปร้องเพลงเพื่อช่วยงานการกุศลและสาธารณประโยชน์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอตลอดมา อีกทั้งเคยได้รับเลือกให้เป็นประธานชมรมนักร้องแห่งประเทศไทยติดต่อกันถึง 3 สมัย
เมื่อปี พ.ศ. 2534 ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง)
เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ได้ถึงแก่กรรมลงด้วยอาการหัวใจล้มเหลวและ โรคอัลซไฮเมอร์ รวมไปถึง โรคเบาหวานด้วย เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เป็นเวลา 1 เดือนหลังจากการเสียงชีวิตของ สุวัฒน์ วรดิลก ผู้เป็นคู่ชีวิต ที่โรงพยาบาลเมืองสมุทร จังหวัดสมุทรปราการในวัย 78 ปี และได้รับการพระราชทานเพลิงศพพร้อมกัน ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร
ศกุนตลา
ทำนอง ครูเอื้อ สุนทรสนาน คำร้อง ครูทวีปวร
ศกุนตลา นางฟ้าแมกฟ้าหรือไฉน
เดินดินนางเดียวเปลี่ยวใจ นางไม้แมกไม้มิได้ปาน
น้ำค้างค้างกลีบกุหลาบอ่อน คือเนตรบังอรหยาดหวาน
โอษฐ์อิ่มพริ้มรัตต์ชัชวาล เพลิงบุณอรุณกาลผ่านทรวง
ศกุนตลา นางฟ้าแมกฟ้าจากสรวง
คลื่นสมุทรสุดฤทัยไหวปวง คือทรวงนางสะท้อนถอนใจ
ยอดมณีศรีศิลป์ปิ่นสรรค์ หล่อหลอมจอมขวัญผ่องใส
คือแก้วแพร้วพร่างกระจ่างใจ อาบไออมฤตนิจนิรันดร์
เพลง “ศกุนตลา” สุวัฒน์ วรดิลก และ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ได้นำเนื้อเพลงที่ประพันธ์โดย ทวีปวร หรือ ทวีป วรดิลก น้องชายของ สุวัฒน์ ไปขอให้ ครูเอื้อ สุนทรสนาน ใส่ทำนอง เมื่อทั้งสองเปิดไนท์คลับ ในชื่อ “ศกุนตลา” เมื่อประมาณปี 2507 และครูเอื้อ ได้เล่นเปียโนต่อเพลง “ศกุนตลา” ให้เพ็ญศรี ขับร้องที่โรงเรียนสุนทราภรณ์การดนตรี ก่อนจะทำการบันทึกเสียงและเป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากให้กับศิลปินแห่งชาติผู้นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี