เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ของฮ่องกง เผยแพร่บทความ "No more prostitutes in Pattaya’s Walking Street, apparently" กล่าวถึงกรณีที่ทางการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ประเทศไทย ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ออกมาประกาศว่า "ที่นี่ไม่มีการขายบริการทางเพศ" หลังการสนธิกำลังกันของทั้งตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบพื้นที่วอล์คกิ้ง สตรีท (Walking Street) เมื่อค่ำวันที่ 6 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา แล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์เชิงประชดประชัดในสังคมอย่างกว้างขวาง

เนื้อหาในบทความเล่าถึงความพยายามของเมืองพัทยาที่จะเปลี่ยนโฉมภาพลักษณ์จากดินแดนที่มีการขายบริการทางเพศเป็นดินแดนที่ครอบครัวสามารถมาท่องเที่ยวได้รวมถึงการเน้นรองรับนักท่องเที่ยวระดับสูง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีโรงแรมที่ค่าเข้าพักไม่แพงมากหลายแห่ง สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวจากจีน อินเดีย และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อีกด้านหนึ่ง เมื่อ 12 มิถุนายน 2562 อัครวัฒน์ เลาวัณย์ศิริ (Akawat Laowonsiri) อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในเวทีเสวนา "โครงการทบทวนกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี" โดยนำเสนอร่างกฎหมายที่คุ้มครองผู้ขายบริการทางเพศ ซึ่งย้ำว่าจะไม่ทำให้คนเข้าสู่อาชีพนี้มากขึ้น เพราะจากการศึกษาเชิงสถิติ พบว่าตั้งแต่หลังหมดยุคสงครามเวียดนามจำนวนผู้ค้าประเวณีก็ลดลงมาโดยตลอด

บทความชิ้นนี้ทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยกำหนดให้การขายบริการทางเพศเป็นอาชีพผิดกฎหมายในปี 2503 หรือ 5 ปี หลังสงครามเวียดนามเริ่มต้นขึ้น ซึ่งนั่นเป็นยุคแรกๆ ที่ทหารอเมริกันเข้ามาหาความสุขสำราญในเมืองพัทยา ดังนั้น มันไม่ง่ายสำหรับทางการเมืองพัทยา ที่จะชะล้างสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นเรื่องมัวหมองให้หมดไปจากเมือง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นักวิชาการชี้แก้กม.เลิกเอาผิดอาชีพ'ค้าประเวณี'ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย

ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.scmp.com/magazines/post-magazine/travel/article/3016969/no-more-prostitutes-pattayas-walking-street