กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยปักหลักชุมนุมประท้วงภายในท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเป็นวันที่สอง แม้จะเหลืออยู่แค่หลักร้อย ไม่กระทบเที่ยวบิน ขณะที่การประท้วงใหญ่เริ่มขึ้นแล้ว บรรยากาศเป็นแบบครอบครัวเต็มไปด้วยสีสัน ยังไม่มีรายงานความรุนแรง

สื่อต่างประเทศรายงานเกาะติดสถานการณ์การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงเมื่อวานนี้ (10 ส.ค. ) ซึ่งเป็นวันที่สองที่กลุ่มผู้ประท้วงเข้าไปปักหลักภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานระหว่างประเทศฮ่องกงว่า บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ประท้วงในช่วงสายวันเสาร์เหลืออยู่ประมาณ 150 คน ส่วนใหญ่สวมเสื้อผ้าสีดำ ถือแผ่นป้ายที่มีข้อความโจมตีนางแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง รวมถึงตำรวจฮ่องกงที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง

ส่วนในช่วงบ่ายมีผู้ประท้วงเข้าไปสมทบเพิ่ออีกกว่า 300 คน แต่บรรยากาศยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการชุมนุมที่ขัดขวางการให้บริการของพนักงานท่าอากาศยาน และกระทบต่อการเดินทางของผู้โดยสาร ไม่มีรายงานเที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิกจากการชุมนุมประท้วง ทำให้จนถึงช่วงเย็นยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปภายในอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด คาดว่าผู้ประท้วงมีแผนจะรวมตัวชุมนุมอยู่ภายในอากาศยานนานาชาติฮ่องกงตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้

ด้านการท่าอากาศยานฮ่องกงได้ดำเนินมาตรการรับมือ ด้วยการประกาศห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าอาคารผู้โดยสาร เว้นเฉพาะผู้โดยสารขาออกที่มีเอกสารเดินทางเท่านั้น จึงจะมีสิทธิเข้าอาคารผู้โดยสารได้

ขณะที่บรรยากาศการประท้วงหลายจุดทั่วฮ่องกงช่วงสุดสัปดาห์ในวันแรกเมื่อวันเสาร์ เพื่อสนับสนุนการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่ย่างเข้าสู่เดือนที่สามแล้ว ชาวฮ่องกงพาครอบครัวออกมาร่วมชุมนุมในหลายพื้นที่ ซึ่งจัดขึ้นโดยอ้างจุดประสงค์ว่า เป็นการปกป้องอนาคตเด็ก เป็นการชุมนุมที่ได้รับอนุญาตจากทางการ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันและเป็นไปอย่างเรียบร้อย ต่างจากการประท้วงเผชิญหน้าที่เกิดขึ้นหลายครั้ง

นอกจากนี้มีการแจกจ่ายใบปลิวตัวอักษรประกอบด้วยอักษร D แทนคำว่า demonstration แปลว่าเดินขบวน A แทนคำว่า angry แปลว่า โกรธไม่พอใจ และ P แทนคำว่า protest แปลว่าประท้วง

สตรีคนหนึ่งพาหลานสาววัย 3 ขวบมาร่วมชุมนุมด้วยหวังว่าจะทำให้เด็กเข้าใจถึงสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในฮ่องกงขณะนี้ และสอนให้เด็กรู้ว่าสังคมที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร อนาคตฮ่องกงเป็นอนาคตของเด็กเหล่านี้ คนเป็นผู้ใหญ่จึงต้องต่อสู้เพื่อสิทธิที่เด็ก ๆ พึงมี

ชายวัย 50 ปีอีกคน กล่าวว่า ถึงเวลาที่ชาวฮ่องกงจะต้องเข้าร่วมทุกงาน โดยเฉพาะงานเพื่อคนรุ่นถัดไป ไม่ใช่แค่การประท้วงและเดินขบวนเท่านั้น คนรุ่นถัดไปจะต้องตระหนักถึงความสำคัญของการมีอนาคต แม้พวกเขายังไม่เข้าใจมากนักในเวลานี้ แต่พวกเขาจะได้สัมผัสประสบการณ์การมีเสรีภาพในการดำเนินชีวิตตามที่ต้องการ

อย่างไรก็ดี คาดว่าในช่วงเย็นและค่ำ จะมีการเดินขบวนประท้วงใหญ่ไปตามถนนสำคัญต่างๆ ในย่านการค้าและธุรกิจ ทำให้ตำรวจวางมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยด้วยการปิดกั้นการเข้าถึงสถานที่สำคัญ ทั้งอาคารสภานิติบัญญัติ กองบัญชาการตำรวจ และอาคารสำนักงานประสานงานของรัฐบาลจีนเพื่อป้องกันเหตุวุ่นวาย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความรุนแรง

การชุมนุมใหญ่ช่วงสุดสัปดาห์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการชุมนุมในหลายย่านทั่วฮ่องกงไปจนถึงวันอาทิตย์ โดยฮ่องกงซึ่งหวนคืนสู่การปกครองของจีนเมื่อปี 2540 กำลังเผชิญวิกฤติทางการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ หลังเกิดการชุมนุมต่อเนื่องมากว่า 2 เดือน เริ่มจากการต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ แล้วเริ่มขยายข้อเรียกร้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่การชุมนุมประท้วงก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน จนเริ่มส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฮ่องกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สหรัฐ ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ อังกฤษ และญี่ปุ่น ประกาศเตือนและให้คำแนะนำกับประชาชนที่จะเดินทางมาฮ่องกง