‘สฤณี’เล่าเรื่อง‘ม็อบฮ่องกง’ ชี้กม.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนคือฟางเส้นสุดท้าย-แค้นจนท..ปลอมเป็นผู้ชุมนุม
19 ส.ค. 2562 น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักเขียน นักแปล และผู้ก่อตั้งบริษัท ป่าสาละ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล” กล่าวถึงการประท้วงบนเกาะฮ่องกงและท่าทีของทางการจีนแผ่นดินใหญ่ อธิบายว่าร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นเป็นเพียงฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ชาวฮ่องกงออกมาประท้วง ในความเป็นจริงมีปัญหาสะสมมาก่อนแล้ว โดยเฉพาะปัญหาราคาที่อยู่อาศัยบนเกาะฮ่องกงที่แพงมากและมองว่าผู้มีอำนาจไม่คิดแก้ไขอย่างจริงจัง ดังนี้
“เห็นหลายคนเขียนถึงการประท้วงใหญ่ในฮ่องกงไปเยอะแยะมากมายแล้ว ไม่อยากเขียนอะไรมาก แต่ในฐานะที่เคยทำงานสองปีในภาคการเงินที่ฮ่องกง มีเพื่อนเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงพอสมควร อยากแชร์สิ่งที่ได้รับรู้จากเพื่อนๆ มาสั้นๆ นะคะ อย่างน้อยอาจช่วยเติมภาพที่คนไทยรับรู้ให้ชัดและหลากหลายยิ่งขึ้น”
“- คนฮ่องกงรับรู้อัตลักษณ์ของตัวเองชัดเจนว่าเป็น ‘คนฮ่องกง’ ไม่ใช่คนจีน แม้จะเชื้อชาติเดียวกัน เพื่อนฮ่องกงพูดขำๆ ว่า คนที่บอกว่าพวกเรา ‘ลืมรากเหง้า’ น่ะ คงไม่ทันคิดว่าจีนโพ้นทะเลอย่างพวกเรานี่แหละที่อนุรักษ์วัฒนธรรมจีนโบราณ เพราะสมัยปฏิวัติวัฒนธรรมพรรคคอมมิวนิสต์ทำลายเหี้ยน เพิ่งมาโหนขงจื๊อและวัฒนธรรมโบราณเมื่อไม่นานมานี้เองตอนเปิดประเทศรับทุนนิยม ส่วนหนึ่งจะได้โม้กับฝรั่งว่าการพัฒนาแบบจีนไม่ใช่แบบตะวันตก”
“- มี false flag operation (เจ้าหน้าที่ปลอมตัวมาเป็นผู้ประท้วง จงใจสร้างความวุ่นวายเพื่อดิสเครดิตคนฮ่องกง) ในการชุมนุมมากกว่าหนึ่งครั้ง บางครั้งจับได้คาหนังคาเขาเพราะมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าและคนถ่ายคลิปได้ เรื่องนี้ทำให้คนฮ่องกงแค้นมาก เพื่อนบอกว่าผู้ชุมนุมบางส่วนก็ก่อความวุ่นวายเกินเลยจริงๆ ด้วยความโมโห แต่ false flag operation นี่เป็นวิธีการที่ ‘สกปรก’ มาก และส่อให้เห็นชัดใหญ่เลยว่า รัฐบาลฮ่องกงไม่ใช่เป็นของคนฮ่องกง แต่เป็นของจีน แถมการเรียกผู้ประท้วงว่า ‘rioters’ หรือ ‘ผู้ก่อจลาจล’ ก็ทำให้คนยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก พวกฉันคือประชาชนที่ออกมาเรียกร้องรัฐบาลนะเว้ย มาเรียกแบบนี้ได้ยังไง”
“- ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นแค่ ‘ฟางเส้นสุดท้าย’ เท่านั้น ปัญหาจริงๆ คือคนฮ่องกงจำนวนมากรู้สึกว่าตัวเองเป็น ‘พลเมืองชั้นสอง’ ในประเทศของตัวเองมาหลายปีแล้ว รัฐบาลไม่เคยใส่ใจจะแก้ปัญหาอย่างจริงจังเพราะอยากเอาใจเศรษฐีฮ่องกงและคนจีนแผ่นดินใหญ่มากกว่า ตัวอย่างปัญหาที่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจจะแก้คือปัญหาวิกฤตที่อยู่อาศัยซึ่งราคาแพงลิบขึ้นเรื่อยๆ เกินกำลังซื้อคนธรรมดา คนจนไม่ต้องพูดถึง (กูเกิลคำว่า Hong Kong housing crisis ดูก็ได้)”
“- เพื่อนบอกว่าคนฮ่องกงที่พอมีเงินย้ายออกไปอยู่แคนาดาและประเทศอื่นๆ นานแล้ว ส่วนมหาเศรษฐีย่อมไม่เดือดร้อนอะไรเพราะมีเงินเหลือเฟือและมีรายได้จากการลงทุนในจีน คนฮ่องกงที่ด่าผู้ประท้วง เชียร์จีนตอนนี้หลักๆ คือพวกฐานะดีที่พึ่งพาจีน (นักธุรกิจที่มีเงินลงทุนในจีน ดาราที่พึ่งพาผู้บริโภคจีนซึ่งมีเป็นพันล้าน ฯลฯ) ส่วนคนที่ออกมาประท้วงตอนนี้คือคนฮ่องกงที่ไม่มีทางไป และหนุ่มสาวที่เติบโตขึ้นมาหลัง handover และอยากให้จีนรักษาสัญญาที่ว่าจะให้ฮ่องกง ‘ปกครองตัวเอง’ เพื่อนย้ำว่าใครก็ตามที่ไม่มีผลประโยชน์กับจีนจะมองเห็น ‘ความชอบธรรม’ ของการประท้วงได้ไม่ยากเลย”
“- เพื่อนคนจีนบอกว่าคนจีนที่เห็นใจคนฮ่องกงมีอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่ไม่มี แต่หลายคนก็คิดว่าอีกหน่อยก็ต้องกลับมารวมเป็นประเทศเดียวกันนั่นแหละ เพราะเศรษฐกิจก็ผูกกันขนาดนี้แล้ว (มุมมองเดียวกันกับที่มองไต้หวัน) ฉะนั้นประท้วงไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เหมือนไม้ซีกงัดไม้ซุง ถ้าอยากมาเรียกร้องประชาธิปไตย มาทำด้วยกันในฐานะคนจีนแผ่นดินใหญ่ดีกว่า แม้มันจะยากมากแต่สักวันอาจเป็นไปได้ก็ได้”
“- สิ่งหนึ่งที่เพื่อนคนจีนกับฮ่องกงดูจะเห็นตรงกันก็คือ ไม่คิดว่ารัฐบาลจีนจะใช้กำลังเข้าปราบอย่างรุนแรงเหมือนเทียนอันเหมิน เพราะ 1) จะดูแย่ในสายตาชาวโลก (สมัยเทียนอันเหมินไม่แคร์เพราะเศรษฐกิจยังไม่เปิดขนาดนี้) 2) ถ้าปราบแรงเศรษฐกิจจะยิ่งทรุดเข้าไปอีก ไม่ดีต่อคนจีนจำนวนมากที่มีการลงทุนในฮ่องกง และ 3) ไม่จำเป็นต้องปราบเพราะสายป่านยาวมาก คิดว่ารัฐบาลจีนจะใช้วิธีประวิงเวลาไปเรื่อยๆ รอให้ผู้ประท้วงหมดแรงไปเอง”
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.facebook.com/SarineeA/posts/3046167422076740?__tn__=K-R
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี