’มาริษ’เยี่ยมแรงงานไทยในอิสราเอล ขออย่าประมาทแม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว

’มาริษ’เยี่ยมแรงงานไทยในอิสราเอล ขออย่าประมาทแม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว

วันอาทิตย์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 14.35 น.

’มาริษ’เยี่ยมแรงงานไทยในอิสราเอล ยกย่องเป็นเกษตรกรที่มีคุณค่า ขอให้ช่วยกันดูแลเหมือนครอบครัวอย่างตัวประกันคนไทย ขออย่าประมาทแม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว

เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเอกอัครราชทูต พรรณนภา จันทรารมย์ ได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยที่นิคมเกษตรกรรม Moshav Bnei Atarot ในกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล


โดยนายมาริษ กล่าวว่า ได้เดินทางมาที่อิสราเอล เพื่อมาเยี่ยมตัวประกันคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวมาแล้ว ซึ่งทุกกคนคงจะได้รับทราบข่าวดีนี้แล้วว่าเพื่อนของเราปลอดภัยแล้ว จึงอยากมาเยี่ยมแรงงานไทย ที่ตนขอเรียกว่า เกษตรกร เพราะพวกคุณทำงานที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีคุณค่ากับประเทศของเรา และประเทศอิสราเอล ก็ชื่นชมการทำงานของคนไทย จึงอยากมาสอบถาม และรับฟังความเป็นอยู่ของเกษตรกรทุกคน  แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงมีการหยุดยิง แต่ขออย่าประมาท ขอให้ดูแลกัน สามัคคีกัน

"อย่าประมาท ดูแลกัน และกัน ต้องช่วยกันเพราะครอบครัวมาไม่ได้ และอยากให้เชื่อฟังสถานทูต เวลาเตือนอะไร   แม้สถานการณ์จะคลี่คลายอยู่ในช่วงการหยุดยิงเป็นสัญญานที่ดีในทางปฏิบัติอย่าประมาท ความสำคัญของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อครอบครัวมาไม่ได้อยู่ด้วย อยากเห็นเพื่อนดูแลกันและกัน ความสามัคคี เป็นสิ่งสำคัญ คนไทยรักกัน มีความสุขดูแลกัน"

นายมาริษ ได้เล่าถึงตัวประกันทั้ง 5 คน ก็ได้ช่วยกันดูแล เพราะมี 3 คนถูกจับไปอยู่ด้วยกัน อีก 2 คนอยู่ด้วยกันจึงมีเพื่อน บางคนไม่ได้เจอครอบครัวในรอบ 7 ปี  ก็อยากให้พวกเขาได้เจอครอบครัวโดยเร็ว สำหรับตนเชื่อว่าครอบครัวเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดของแต่ละคน จึงอยากให้ทุกคนเชื่อฟังคำเตือน อยากให้ทุกคนซ้อมเข้าหลุมหลบภัยอยู่เสมอ อย่าประมาท

นามาริษ ยังได้คุยกับเจ้าของฟาร์มเกษตร ซึ่งเป็นนายจ้าง เล่าให้ฟังว่า เกษตรกรไทยที่ทำงานที่นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเขา ได้ใช้ความเป็นมืออาชีพได้ใช้ความสามารถทางการเกษตรมาทำงานที่นี่  นายจ้างจึงขอขอบคุณรัฐบาลไทย ไปถึงนายกรัฐมนตรี สิ่งที่รัฐบาลสนับสนุนเกษตรกร ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน 

"เกษตรกรที่มาได้รับรายได้ที่ดีในขณะเดียวกัน อิสราเอลได้ผลผลิตที่มั่นคง เติบโตทางการเกษตรด้วยกัน ทางนายจ้างก็อยากให้ความร่วมมือการเกษตรไทยอิสราเอลก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ไทยเราพร้อมช่วยเหลือในเรื่องเกษตรกรเราเป็นประเทศมีความสามารถด้านเกษตรกรรม  สิ่งที่เขาใช้เทคโนโลยีความรู้ ให้นำเอาไปใช้ที่ไทยได้ เขายินดีสนับสนุน ให้เกษตรกรได้เป็นเกษตรกรทียั่งยืน" นายมาริษ กล่าวย้ำ

สำหรับแรงงานไทยในอิสราเอล ได้กลับมาทำงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 38,000 คน จากเดิมมีประมาณเกือบ 30,000 คน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงยังเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อความไม่ประมาท

ขณะที่นายจ้างกล่าวกับนายมาริษด้วยว่า ขอบคุณรัฐบาลไทย ที่สนับสนุนแรงงานมาไทยมาทำงานที่อิสราเอล จึงอยากตอบแทนประเทศไทยที่ใช้ความรู้ความสามารถของเขาในการร่วมพัฒนาการเกษตรของไทยด้วย

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก : กระทรวงการต่างประเทศ 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top