เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 สำนักข่าว Russian Today (RT) ของรัสเซีย เสนอข่าว “Lawsuit against film about Japan’s wartime enslavement of women is a hit on free speech–director to RT” ว่าด้วยชะตากรรมของ มิกิ เดซากิ (Miki Dezaki) ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น ที่ถูกฟ้องหลังสร้างภาพยนตร์สารคดีตีแผ่ประเด็นผู้หญิงต่างชาติที่ถูกบังคับเป็นทาสบำเรอกามทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งคาดว่ามีถึง 2 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีเนื่องจากขณะนั้นตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น

โดยผู้ที่ฟ้องนั้นเป็นชาวญี่ปุ่นที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมซึ่งเดซากิเคยไปสัมภาษณ์เพื่อนำมาประกอบในภาพยนตร์ของตน อาทิ ศ.โนบุคัตสึ ฟูจิโอกะ (Prof.Nobukatsu Fujioka) นักวิชาการด้านการศึกษา , โยชิโกะ ซากุราอิ (Yoshiko Sakurai) สื่อมวลชน ที่ปฏิเสธเรื่องของ “Comfort Woman” หรือการบังคับผู้หญิงให้เป็นทาสทางเพศของทหารญี่ปุ่น และไม่อนุญาตให้เดซากิใช้บทสัมภาษณ์ของทั้งคู่ในภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าเดซากิแสดงความคิดเห็นนอกบริบทอีกทั้งหวังทำกำไรจากการฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว

ขณะที่ เดซากิ ยืนยันว่าตนสร้างภาพยนตร์โดยให้น้ำหนักกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเป็นธรรม ส่วนการที่มีผู้โจมตีผลงานของตนนั้นมาจากความพยายามทำให้สับสน และพยายามสร้างสถานการณ์ที่ผู้มีอำนาจจะพูดอะไรก็ได้ ส่วนผู้ที่เห็นต่างไม่สามารถพูดอะไรได้เลย ทั้งนี้แม้ในปี 2536 รัฐบาลญี่ปุ่นจะแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการต่อเกาหลีใต้เรื่องการบังคับให้ผู้หญิงชาวเกาหลีทำงานบริการทางเพศกับทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นักการเมือง นักประวัติศาสตร์ และนักเขียนชาวญี่ปุ่นเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม ไม่ยอมรับว่าเคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

อนึ่ง แม้สงครามโลกครั้งที่ 2 จะยุติลงไปตั้งแต่ปี 2488 แต่ประเด็นหญิงชาวเกาหลีที่ตกเป็นทาสบำเรอกามของทหารญี่ปุ่น ยังเป็นปมขัดแย้งของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน อาทิ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ทำลายรูปปั้นอนุสรณ์เหยื่อทางเพศ ที่ตั้งไว้หน้าสถานทูตและสถานกงสุลญี่ปุ่น แต่รัฐบาลเกาหลีก็เมินเฉยไม่ยอมทำตามคำขอนั้น

ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.rt.com/news/469379-japan-documentary-comfort-women/