19 ธันวาคม 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติรับรองบทบัญญัติ 2 ข้อในญัตติว่าด้วยการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ
โดยญัตติแรกที่ชี้ว่าทรัมป์ใช้อำนาจในทางที่ผิด กรณีถูกกล่าวหาว่ากดดันยูเครนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัวของเขา ได้รับเสียงสนับสนุน 230 เสียง คัดค้าน 197 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง ส่วนอีกฉบับกล่าวหาว่าทรัมป์ขัดขวางกระบวนการตรวจสอบการกระทำผิดของตน อีกทั้งยังปิดกั้นสิทธิ์ของคณะกรรมาธิการในการเข้าถึงเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องได้รับเสียงสนับสุนน 229 เสียง คัดค้าน 198 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง
ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้ทำให้ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐที่เข้าสู่กระบวนการถอดถอน ต่อจากอดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน เมื่อ 21 ปีก่อน และอดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์จอห์นสัน เมื่อ 151 ปีก่อน
หลังจากนี้นี้กระบวนการถอดถอนเข้าสู่ขั้นตอนของวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในช่วงกลางเดือน ม.ค.นี้ ซึ่งการลงมติของวุฒิสภาต้องอาศัยเสียงข้างมากไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ขณะที่นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภายืนกรานว่า เขาต้องการให้เรื่องนี้ยุติเร็วที่สุด และโอกาสเป็นศูนย์ที่ทรัมป์จะพ้นจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ ชนวนเหตุให้เกิดกระบวนการไต่สวนและลงมติเพื่อถอดถอนทรัมป์มาจากเรื่องที่ทรัมป์ ขอให้ประธานาธิบดียูเครนตรวจสอบคู่แข่งทางการเมืองของเขา คือ อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และบุตรชาย ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทพลังงานในยูเครน แลกกับความช่วยเหลือด้านการทหารกับยูเครนเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี