‘จีน’ระส่ำซ้ำ
ยอดผู้ป่วยใหม่108ราย
จับกักตัวยาวถึง28วัน
ล็อกดาวน์2เมืองใหญ่
‘ซุยเฟินเหอ-ฮาร์บิน’
ทางการจีนกังวลหนัก หลังไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบสอง ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยใหม่พุ่ง 108 ราย เพิ่มความเข้มข้นกักตัว 28 วันล็อกดาวน์ 2 เมืองใหญ่ “ซุยเฟินเหอ–ฮาร์บิน” ทั้งสกัดเข้มคนเข้าเมืองด้านอิตาลี มีสัญญาณดียอดผู้เสียชีวิตลดลง ขณะที่ลูกเรือบรรทุกเครื่องบินชาร์ลส์ เดอ โกล ของฝรั่งเศส ถูกกักตัวยกลำ 1,700 คนสอบหาผู้ติดเชื้อ ส่วนยอดผู้ป่วยทั่วโลก 1,8 ล้านราย เสียชีวิต 1.1 แสนราย
เมื่อวันที่ 13 เมษายน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันในจีนพุ่งสูงเป็นสถิติใหม่ในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ สืบเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น กลายเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับจีนที่จะต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ กลับมาระบาดหนักเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งจีนมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 108 รายในวันอาทิตย์ ขยับขึ้นจากสถิติ 99 รายเมื่อ 1 วันก่อนหน้า และเป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบกว่า 1 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน รายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศ 82,160 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รวมเป็น 3,341 รายในวันจันทร์ พร้อมเผยว่าผู้ติดเชื้อใหม่เป็น “เคสนำเข้า” มากถึง 98 ราย แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในจีนจะลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ไวรัสระบาดหนักในเดือนกุมภาพันธ์ ทว่าตัวเลขที่มีแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็กระตุ้นให้รัฐบาลปักกิ่งต้องหันมาใช้มาตรการคุมเข้มผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันการระบาดระลอกที่ 2 ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจจีนกลับสู่ภาวะกึ่งอัมพาตอีกครั้ง
เผยติดเชื้อมาจากรัสเซีย
มณฑลเฮย์หลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 56 ราย โดย 49 รายเป็นผู้ที่เดินทางข้ามแดนมาจากรัสเซีย
บรรดาเมืองของจีนที่อยู่ใกล้ชายแดนหมีขาวประกาศ ว่าจะเริ่มใช้มาตรการคัดกรองเข้มงวดและกักโรคคนเดินทาง โดยเมืองซุยเฟินเหอ (Suifenhe) และฮาร์บิน (Harbin) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเฮย์หลงเจียง จะกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันโรคเป็นเวลา 28 วัน รวมถึงผ่านการทดสอบกรดนิวคลิอิกและแอนติบอดีเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา ทางการเมืองฮาร์บินยังเตรียมสั่งล็อคดาวน์ที่พักอาศัยซึ่งยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการป่วย เป็นเวลา 14 วัน
สหรัฐเปิดประเทศได้เดือนหน้า
ดร.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อของสหรัฐคาดว่า สหรัฐอาจจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้ในเดือนพฤษภาคม
ดร.เฟาซีให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการบางอย่างในเดือนหน้า หวังว่าจะเห็นได้ภายในสิ้นเดือนนี้ว่าสามารถทำได้อย่างปลอดภัยและระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นก็จะต้องปิดเมืองต่อไป แต่ละพื้นที่จะมีความพร้อมแตกต่างกันไป ไม่ใช่การทำคราวเดียวทั้งประเทศ เขาค่อนข้างมีความเห็นในแง่ดีเพราะจำนวนผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลและผู้ป่วยอาการหนักเริ่มลดลง
ด้าน ดร.สตีเฟน ฮาห์น กรรมาธิการสำนักงานอาหารและยาสหรัฐหวังว่า จะเปิดประเทศได้อีกครั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม แต่ก็คิดว่าเร็วเกินไปที่จะบอกได้ ขณะที่นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กที่สถานการณ์รุนแรงที่สุดเผยว่า ต้องการเปิดเมืองให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ต้องทำอย่างชาญฉลาด ส่วนนายฟิล เมอร์ฟี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์มองว่า การฟื้นเศรษฐกิจจะทำได้หลังจากที่ฟื้นด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่แล้ว เพราะหากเริ่มต้นใหม่เร็วเกินไปจะกลายเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ
อิตาลียอดตายรายวันลด
ที่อิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ เป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม มีผู้เสียชีวิต 431 คน จากเดิม 619 คนเมื่อวันเสาร์ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 4,092 คน ลดลงจากเมื่อวันเสาร์ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตของอิตาลีอยู่ที่เกือบ 20,000 คน และยอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 156,000 คน เป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐและสเปน
ส่วนที่ฝรั่งเศส เรือบรรทุกเครื่องบินชาร์ลส์ เดอ โกล ซึ่งอยู่ระหว่างการลาดตระเวนในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเหนือเกือบ 3 เดือน ต้องรีบกลับมาเทียบท่าที่เมืองตูลง หลังพบลูกเรือราว 50 คน ติดโรคโควิด-19 ทำให้ต้องทดสอบหาเชื้อลูกเรือทั้งหมดราว 1,700 คน และกักตัวดูอาการ 14 วัน ภาพรวมสถานการณ์ในฝรั่งเศสเมื่อวานนี้มียอดผู้เสียชีวิตลดลงจากวันก่อน อยู่ที่ 315 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเกือบ 15,000 คน และมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 130,000 คน.
นิวซีแลนด์คุมเข้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้นิวซีแลนด์และออสเตรเลียได้รับการยกย่องจากทั่วโลก จากความสำเร็จในการต่อสู้กับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยใหม่น้อยมาก และไม่เกิดภาวะตึงเครียดในระบบการรักษาพยาบาล แต่ทั้งสองประเทศ ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือเริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง
นายเบรนแดน เมอร์ฟีย์ แพทย์ใหญ่ของรัฐบาลออสเตรเลียให้สัมภาษณ์กับวิทยุ ABC ว่า ยังอีกหลายสัปดาห์กว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะตัดสินใจว่าจะผ่อนคลายมาตรการลงหรือไม่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์กล่าวว่า การตัดสินใจว่าจะขยายเวลาปิดเมืองทั่วประเทศ และภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ออกไปหรือไม่ จะมีขึ้นในวันที่ 20 เมษายน
นิวซีแลนด์ที่ใช้มาตรการปิดเมืองที่หลากหลายเพิ่งมีผู้เสียชีวิตเพียง 5 คน และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเพียง 15 คน หรือเพียง 1 ใน 6 ของเมื่อต้นเดือน และมีผู้ติดเชื้อสะสม 1,064 คน เทียบกับประชากรทั้งประเทศ ประมาณ 5 ล้านคน ขณะที่ออสเตรเลีย ซึ่งห้ามการทำกิจกรรมหลายอย่างอย่างเข้มงวด มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 33 คน หรือไม่ถึง 1 ใน 10 ของเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และมีผู้ติดเชื้อสะสม 6,322 คน เสียชีวิต 61 คน
ผู้นำอังกฤษออกจากรพ.
มีรายงานว่า หลังออกจากโรงพยาบาลเซนต์โทมัสในกรุงลอนดอน นายบอริส จอนห์สัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในทวิตเตอร์กล่าวขอบคุณคณะแพทย์และพยาบาลที่ช่วยชีวิตเขาโดยได้เอ่ยชื่อเจนนีและลูอิส พยาบาล 2 คนที่คอยดูแลอยู่ข้างเตียงเขาตลอด 48 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ นายจอห์นสันยังได้แสดงความชื่นชมคณะทำงานของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ หรือ NHS ที่ทุ่มเททำงาน
นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขได้แสดงความเสียใจที่ผู้คนกว่าหมื่นคนต้องสูญเสียชีวิตให้กับฆาตกรที่มองไม่เห็น และได้ชื่นชมความร่วมมือของประชาชนที่อยู่แต่ในบ้าน
สเปนติดเชื้อใหม่อีกครึ่งหมื่น
ส่วน สเปนมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,167 คน เพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 106,619 คน แต่กลับมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน ที่จำนวน 619 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 16,972 คน
นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส กล่าวว่า รัฐบาลจะรับมือกับไวรัสด้วยวิธีที่สมดุลเพื่อจัดการกับไวรัสที่ทำลายชีวิตผู้คนและเสี่ยงจะทำลายเศรษฐกิจของประเทศไปด้วย โดยในวันนี้ รัฐบาลสเปนจะเริ่มอนุญาตให้คนทำงานบางส่วนกลับไปทำงานได้ หลังจากที่อยู่ในบ้านมา 2 สัปดาห์ โดยเน้นที่กลุ่มโรงงานและก่อสร้าง ส่วนพนักงานออฟฟิศยังคงสนับสนุนให้ทำงานที่บ้าน
สนามบินนาริตะจัดที่นอนชั่วคราว
ที่ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะของญี่ปุ่นจัดเตรียมที่พักชั่วคราว เป็นเตียงนอนทำจากกระดาษกล่องพร้อมหมอน ผ้าห่มและฟูกให้แก่ผู้โดยสารเข้าประเทศระหว่างรอผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา
เที่ยวบินที่ท่าอากาศยานแห่งนี้ลดลงมากจนต้องปิดทางวิ่งไปหนึ่งทาง แต่ยังคงมีเที่ยวบินมาจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐ อิตาลี ผู้โดยสารเข้าประเทศจะต้องตรวจหาเชื้อที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จึงจะออกจากท่าอากาศยานได้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยว่า ผลตรวจอาจทราบได้ภายใน 6 ชั่วโมง แต่อาจมีความล่าช้าที่ทำให้ผู้โดยสารต้องรออีกสองสามวัน ทางการจึงได้เตรียมพร้อมที่นอนทำจากกระดาษกล่องมารองรับผู้โดยสารเหล่านี้ในกรณีที่ที่พักใกล้เคียงไม่ว่าง อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการใช้งานเพราะยังมีที่พักเพียงพอ ปกติแล้วที่นอนกระดาษกล่องพร้อมเครื่องนอนมักใช้ตามศูนย์อพยพในยามที่เกิดภัยพิบัติหรือในยามที่ต้องการที่พักชั่วคราว
ญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 7 จังหวัดใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อควบคุมโควิด-19 ระบาด บรรษัทกระจายเสียงญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) รายงานว่า ญี่ปุ่นมีผู้ป่วย 7,400 คน ผู้เสียชีวิต 137 คน
สรุปตัวเลขป่วย-ตายล่าสุด
ล่าสุดในเย็นวันเดียวกัน มีตัวเลขผู้ติดเชื้อป่วยโควิด-19 ทั่วโลก 1,861,672 คน เสียชีวิต 114,980 คน โดยสหรัฐ มีผู้ติดเชื้อ 560,433 คน เสียชีวิต 22,115 คน อิตาลี มีผู้ป่วยติดเชื้อ 156,363 คน เสียชีวิต 19,899 คน สเปน มีผู้ป่วยติดเชื้อ 169,496 คน เสียชีวิต 17,489 คน ส่วนฝรั่งเศส มีผู้ป่วยติดเชื้อ 132,591 คน เสียชีวิต 14,393 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี