คิวบาประท้วงเหตุยิงสถานทูต
ฮาวานา - นายบรูโน โรดริเกซ รัฐมนตรีต่างประเทศคิวบา เรียกตัวอุปทูตสหรัฐในกรุงฮาวานามาประท้วงอย่างรุนแรง หลังเหตุคนร้ายโจมตีสถานทูตคิวบาในกรุงวอชิงตัน ของสหรัฐ เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ ระบุเป็นไปไม่ได้ที่เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาลสหรัฐที่ก้าวร้าวและเป็นปรปักษ์ต่อคิวบา ด้านอุปทูตสหรัฐแถลงหลังถูกเรียกตัวไปประท้วงว่า ขอประณามการก่อเหตุดังกล่าว สหรัฐจะรับผิดชอบอย่างจริงจังตามอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตปี 2504 จะสอบสวนอย่างละเอียดและเต็มที่ หน่วยข่าวกรองสหรัฐซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนักการทูตและสถานทูตต่างชาติแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า เมื่อเวลา 02.15 น. วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้รุดไปยังสถานทูตคิวบาในย่านอดัมส์มอร์แกน หลังได้รับรายงานเหตุยิง ชายคนหนึ่งถูกควบคุมตัวข้อหาครอบครองอาวุธและเครื่องกระสุนไม่ลงทะเบียน ข้อหาก่อเหตุร้ายโดยมีเจตนาฆ่า และข้อหาครอบครองอาวุธอานุภาพสูง ไม่มีคนบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ผู้ต้องสงสัยเป็นชาย วัย 42 ปี ชาวรัฐเท็กซัส ถูกควบคุมตัวโดยทันที และอาวุธที่ใช้ก่อเหตุถูกยึด
ฮังการีเตือนโควิด-19 ระบาดซ้ำ
บูดาเปสต์ - นายกรัฐมนตรีวิกตอร์ ออร์บาน ของฮังการี แถลงเตือนให้เตรียมตัวรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดรอบสองในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน หลังจากการติดเชื้อดูเหมือนจะชะลอลงเพราะเข้าสู่ฤดูร้อน ระบุเชื้อไวรัสโคโรนายังไม่หายไปไหน เป็นเพียงการชนะชั่วคราวเท่านั้น และว่าทางการจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางตามชนบท อนุญาตให้ร้านค้าร้านอาหารเปิดได้อีกครั้งเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ สิ่งสำคัญขณะนี้คือมุ่งสร้างงานที่เสียหายไปเพราะโควิด-19 หลังจากมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจฮังการีปีนี้จะติดลบราวร้อยละ 4 จากที่ขยายตัวร้อยละ 4.9 เมื่อปีก่อนอย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีฮังการีประกาศว่า จะยังไม่ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในกรุงบูดาเปสต์และพื้นที่โดยรอบจนกว่าอัตราการเสียชีวิตจะลดลง เพราะร้อยละ 80ของยอดผู้เสียชีวิตทั้งประเทศเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ จนถึงขณะนี้ฮังการีมีผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 2,863 คน เสียชีวิต 323 คน
รองปธน.สหรัฐยอมสวมหน้ากาก
โคโคโม - นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ยอมสวมหน้ากากอนามัยแล้ว ขณะที่เขาเดินทางไปยังโรงงานผลิตเครื่องช่วยหายใจของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส-เวนเทค ในเมืองโคโคโม รัฐอินดีแอนา เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีที่เขาไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยในช่วงต้นสัปดาห์ เมื่อเดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่โรงพยาบาลมาโย คลินิก ในเมืองโรเชสเตอร์ รัฐมินนิโซตา ซึ่งเป็นการละเมิดนโยบายของทางโรงพยาบาล ด้านนางคาเรน เพนซ์ ภรรยาของเขา ออกโรงปกป้องการตัดสินใจของสามีที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่รู้เกี่ยวกับนโยบายเรื่องไวรัส
ของโรงพยาบาลจนกระทั่งออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว และว่ารองประธานาธิบดีปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มาตลอด และไม่ได้มีเจตนาที่ละเมิด หรือกระทำความผิด เพนซ์ก็เหมือนกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ในทำเนียบขาว ผ่านการตรวจหาเชื้อไวรัสอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี