13 มิ.ย. 2563 เว็บไซต์ นสพ.The Guardian ของอังกฤษ เสนอข่าว 'China's lifeblood': street hawkers make surprise return to fire up ailing economy ระบุว่า วิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเทศจีนตัดสินใจรื้อฟื้นวิถีการค้าขายข้างถนน (Street Vendor) หรือหาบเร่แผงลอยขึ้นมาอีกครั้ง จากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีความพยายามกวาดล้างด้วยเหตุผลว่าการค้าขายแบบนี้ดูล้าหลังไม่สอดคล้องกับการพัฒนาเมืองในยุคสมัยใหม่
ทิศทางที่เปลี่ยนไปของทางการแดนมังกร เกิดขึ้นเมื่อ หลี่เค่อเฉียง (Li Keqiang) นายกรัฐมนตรีของจีน กล่าวระหว่างเดินทางไปเยือนมณฑลชานตงเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ที่ระบุว่า “หาบเร่แผงลอยคือเส้นเลือดใหญ่ของชาติและเป็นแหล่งงานที่สำคัญหลังสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 (street hawkers are the lifeblood of the country and a key source of employment in the aftermath of the Covid-19 outbreak)” และหลังจากนั้นการขายของข้างถนนก็กลายเป็นกระแสใหญ่โตในจีน มีผู้คนสนใจอยากเข้าไปเกี่ยวข้องมากมาย
อาทิ หุ้นของบริษัทที่ผลิตเครื่องมือสำหรับผู้ประกอบอาชีพหาบเร่แผงลอยพุ่งสูงขึ้น บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เริ่มเสนอสินเชื่อราคาถูกให้ผู้ค้ารายใหม่ การค้นหาในเว็บไซต์ไป่ตู้ (Baidu-เว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่นิยมใช้ในจีน เหมือน Google ที่นิยมใช้ทั่วโลก) พบคำว่า “เคล็ดลับของผู้ค้า (street vendor tips)” กลายเป็นคำค้นหายอดนิยม และมีผู้บริหารเมืองต่างๆ ในจีนอย่างน้อย 27 เมือง ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนกิจการขนาดเล็กเหล่านี้ ซึ่งนั่นทำให้ชาวจีนที่ได้รับผลกระทบ เช่น ถูกลดค่าจ้างหรือกำลังตกงาน หันไปประกอบอาชีพหาบเร่แผงลอยกับมากขึ้น
ซื่อ (Xue) หญิงรายหนึ่งที่เรียนมาทางด้านทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources) แต่ขณะนี้กำลังว่างงาน กล่าวว่า ตนค้าขายพร้อมๆ กับหางานไปด้วย ทำมาได้ 3 วันแล้วแม้ผลกำไรจะไม่ดีนัก เหตุที่ตัดสินใจมาค้าขายข้างถนนเพราะนโยบายผ่อนคลายลงและไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว เช่นเดียวกับ เมิ่ง (Meng) ชายที่มีอาชีพหลักเป็นพนักงานร้านอาหารตอนกลางวัน แต่ต้องการมีรายได้เสริมสำหรับส่งกลับไปเลี้ยงครอบครัวที่มณฑลกวางตุ้ง เล่าว่า ตนกับเพื่อนลงขันกันซื้ออุปกรณ์สำหรับตั้งร้านค้าสำหรับขายอาหารยามค่ำคืน และจะไม่กลับบ้านจนถึงเวลา 03.00 น.
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ย้อนไปในทศวรรษ 1980s (ปี 2523-2532) หาบเร่แผงลอยเคยถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ในการเติบโตของเศรษฐกิจจีน และในทศวรรษ 1990s (ปี 2533-2542) ก็ได้รับการส่งเสริมเพื่อบรรเทาปัญหาคนว่างงาน ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า หาบเร่แผงลอยมีบทบาทสำคัญในฐานะแหล่งงานของเมืองให้กับประชากรที่มีทักษะไม่สูงนัก รวมถึงเป็นแหล่งอาหารให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจำนวนมากเป็นแรงงานที่อพยพมาจากพื้นที่อื่นๆ
ถึงกระนั้น เอมี แฮนเซอร์ (Amy Hanser) นักวิชาการด้านสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย (University of British Columbia) ประเทศแคนาดา ให้ความเห็นว่า ยังไม่แน่ชัดว่าท่าทีของรัฐบาลจีนที่มองผู้ค้าหาบเร่แผงลอยเปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะสิ่งที่เห็นเป็นแนวคิดริเริ่มจากบนลงล่าง ไม่ได้มาจากการตอบสนองต่อความต้องการแสดงออกของผู้คนในท้องถิ่น
อนึ่ง มีรายงานว่า ทางการจีนโดยสำนักงานโฆษณาชวนเชื่อมีการออกคำสั่งถึงสำนักข่าวต่างๆ ให้ลบเนื้อหาเกี่ยวกับหาบเร่แผงลอยออกเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งเสริม ส่วนเว่ยป๋อ (Weibo) เครือข่ายสังคมออนไลน์ของชาวจีน แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับหาบเร่แผงลอยถูกบล็อก และทางการกรุงปักกิ่งบอกว่าหาบเร่แผงลอยไม่เหมาะสมกับเมืองหลวง ที่เป็นเช่นนั้นเพราะการผ่อนคลายให้มีหาบเร่แผงลอยจะทำให้การควบคุมพฤติกรรมคนในสังคมอาจเป็นไปได้ยากขึ้น
ซึ่งตลอดทศวรรษที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งรวมถึงอีกหลายๆ เมืองในจีนพยายามจัดระเบียบในหลายเรื่อง เช่น การห้ามผู้ชายถกเสื้อขึ้นจนเห็นพุงในช่วงฤดูร้อน รวมถึงการจำกัดจำนวนประชากรในเมืองเพื่อควบคุมปริมาณแรงงานย้ายถิ่น ซูเจี้ยนหัว (Xu Jianhua) นักวิชาการด้านสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยมาเก๊า (University of Macau) กล่าวว่า ตนเห็นสังคมจีนมีการควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่คิดว่าทางการจีนจะหันหลังกลับเรื่องนโยบายเกี่ยวกับเมืองและเศรษฐกิจนอกระบบ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเพียงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดเท่านั้น
รายงานข่าวทิ้งท้ายด้วยการกลับมาที่ เมิ่ง กับเพื่อนที่ลงขันกับตั้งแผงขายอาหารในกรุงปักกิ่ง เมิ่ง บอกว่า ลูกค้าดูมีความสุขที่เห็นร้านขายอาหารแบบนี้ บางคนบอกว่าที่ผ่านมาหาอาหารรับประทานยากมากแม้จะเดินไปไม่ไกล การที่พวกตนมาขายอาหารจึงทำให้พวกเขาสะดวกขึ้น ถึงกระนั้น ตนก็ไม่ได้คิดจะเป็นผู้ค้าหาบเร่แผงลอยตลอดไป เพราะเทศกิจในกรุงปักกิ่งขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดในการจัดการกับผู้ค้าข้างถนนอย่างมาก แม้จะไม่ถูกจับในวันนี้ แต่ไม่ใข่ว่าวันพรุ่งนี้จะรอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี