3 ก.ค.63 สำนักข่าว "ซินหัว" รายงานโดยอ้างคำกล่าวของโฆษกเขตปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน กล่าวว่า คณะกรรมการคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกงได้ถูกก่อตั้งขึ้น ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ

แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานของคณะกรรมการดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกง

หลิวจื้อเหว่ย (Lau Chi-wai) ผู้ได้รับการเสนอชื่อโดยแลม ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจและหัวหน้าสำนักงานตำรวจฮ่องกงเพื่อคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติ

บรรดาสมาชิกของคณะกรรมการ อันรวมถึงหัวหน้าเลขานุการฝ่ายบริหาร, เลขานุการฝ่ายการเงิน, เลขานุการฝ่ายความยุติธรรม, เลขานุการฝ่ายความปลอดภัย, ผู้บัญชาการตำรวจ, รองผู้บัญชาการตำรวจ, ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง, ผู้แทนฝ่ายศุลกากรและสรรพสามิต และผู้อำนวยการสำนักงานผู้บริหารสูงสุด

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2 ก.ค.) เฉินกั๋วจี ผู้อำนวยการสำนักงานผู้บริหารสูงสุด ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการของคณะกรรมการคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกง

ขณะเดียวกันสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจฮ่องกงใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีนกับผู้ต้องหารายแรกแล้วในวันนี้ หลังจากกฎหมายเพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน

ตำรวจฮ่องกงแถลงสั้น ๆ ว่า ผู้ต้องหาเป็นชายชาวฮ่องกงวัย 24 ปี ถูกตั้งข้อหายุยงให้ผู้อื่นแบ่งแยกดินแดนและข้อหากระทำการแบบผู้ก่อการร้าย

แหล่งข่าวตำรวจเผยว่า ชายคนนี้ขับรถจักรยานยนต์พุ่งเข้าไปในกลุ่มตำรวจเมื่อวันพุธระหว่างที่มีการประท้วงต่อต้านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ คลิปที่ถ่ายโดยสถานีโทรทัศน์ในฮ่องกงเห็นชายคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์สีส้ม ด้านหลังติดธงมีคำว่า “ปลดแอกฮ่องกง ปฏิวัติช่วงเวลาของเรา” พุ่งเข้าไปในกลุ่มตำรวจปราบจลาจล ส่วนคลิปที่ผู้สัญจรถ่ายด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นช่วงเวลาหลังจากนั้น เห็นตำรวจตะครุบตัวเขาทันทีที่ล้ม ตำรวจเผยในเวลานั้นว่า มีตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย

ทั้งนี้ กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีนห้ามการแบ่งแยกดินแดน การล้มล้าง การก่อการร้าย และการคบคิดกับกลุ่มต่างชาติ ทางการฮ่องกงประกาศว่า ประโยค “ปลดแอกฮ่องกง ปฏิวัติช่วงเวลาของเรา” ถือว่าผิดกฎหมายตามมาตราแบ่งแยกดินแดนและมาตราล้มล้าง ส่วนการก่อการร้ายมีความหมายกว้างขวาง รวมถึงการก่อเหตุร้ายบนยวดยานหรือระบบขนส่งสาธารณะ การใช้วิธีการอันตรายเพื่อทำให้ความปลอดภัยหรือสาธารณสุขตกอยู่ในอันตราย ความผิดร้ายแรงตามกฎหมายนี้มีโทษจำคุกตลอดชีวิต