สื่อสิงคโปร์พาทัวร์‘คลองเตย’ มีดีมากกว่าแค่คำว่า‘สลัม’

30 กันยายน 2563 สำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์ เสนอข่าว In Bangkok, this high-crime slum is a foodie gem serving up live shrimp and bile ว่าด้วย “คลองเตย (Klong Toey)” ชุมชนแออัดขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย ด้านหนึ่งถูกมองว่าเป็นแหล่งเสื่อมโทรม แต่อีกด้านหนึ่ง คนจากที่นี่คือผู้ผลิตอาหารจานเด็ดซึ่งถูกปากคนไทยหลากหลายอาชีพ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างแดนที่ต้องการสัมผัส “สตรีทฟู้ด (Street Food)” หรืออาหารริมทาง วิถีการรับประทานอาหารอันขึ้นชื่อของสังคมไทย

Pranee Wiangnon หรือที่หลายคนเรียกว่า “แม่ใหญ่ (Big Mama)” ผู้ยึดอาชีพค้าขายหาบเร่แผงลอยแบบรถเข็น เล่าว่า ภาพลักษณ์ของชุมชนคลองเคยในสายตาคนภายนอกคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ไม่ต่างจาก Sirathorn ที่เล่าว่า หากย้อนไปเมื่อ 30 ปีก่อน คนติดยาเสพติดมักจะมาขอเงินคนทำมาหากินอยู่เสมอ และตนก็คิดอยู่นานพอสมควรว่าจะปักหลักตั้งรกรากที่นี่ดีหรือไม่

Pranee เล่าถึงหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของร้าน มันคือ “กุ้งเต้น (Dancing Shrimp)” เมนูที่มีกุ้งเป็นๆ ตัวเล็กๆ กระโดดไป-มาในจาน เธอเล่าว่าบางคนสุดท้ายก็ไม่ได้รับประทานเพราะกุ้งกระโดดออกจากจานหมดแล้ว กุ้งที่นำมาทำเป็นวัตถุดิบนั้นเป็นกุ้งน้ำจืดที่ใช้เลี้ยงปลา พบได้ทั่วไปในคลองหรือนาข้าวของประเทศไทย ในจานนี้ยังประกอบด้วยน้ำปลา ผงข้าวปิ้ง พริก สมุนไพรและน้ำมะนาว เมื่อคลุกเคล้าแล้วจึงตักกุ้งจากตู้ปลามาใส่อย่างรวดเร็ว ราคาอยู่ที่ 50 บาท และไม่สามารถลดให้ถูกกว่านี้ได้ เพราะต้นทุนวัตถุดิบค่อนข้างสูง

Sombatsara Teerasaroch ผู้รับจากงานกิจกรรมต่างๆ กล่าวว่า วัตถุดิบที่สดและเครื่องปรุงจะทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ในน้ำลาย มันทำให้ทุกอย่างหวานและสมบูรณ์ในปาก นี่คืออาหารจานเด็ด มันคือซาซิมิ (ปลาดิบ-อาหารญี่ปุ่น) แบบไทยๆ อนึ่ง ที่ชุมชนคลองเตย ยังเป็นแหล่งรวม “อาหารอีสาน (Isaan dish)” หรือเมนูที่มีต้นกำเนิดมาจากผู้คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย

Sirathorn เล่าถึงเมนู “ลาบ (Larb)” หรือสลัดเนื้อที่มีส่วนผสมของเลือดและน้ำดี ราคาจานละ 50 บาท การเดินทางของตนจากบ้านเกิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามายังกรุงเทพฯ ได้นำพาตำรับอาหารของชาวอีสานที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ส่วนผสมจากการหมัก และการถนอมอาหารที่ทำให้มีรสเผ็ดร้อน เปรี้ยวและฉุนมาด้วย ขั้นตอนเริ่มจากต้มถุงน้ำดีของวัวก่อนจะผ่าออก ทำให้น้ำดีสีเขียวไหลออกมาซึ่งดูเหมือนน้ำเชื่อม

น้ำดีวัวจะถูกเทใส่เนื้อที่หั่นเป็นชิ้น คลุกเคล้ากับพริก ผงข้าวปิ้ง สมุนไพร ก่อนจะนำมาผัดพร้อมผสมกับเลือดที่เจือจาง และต้องเป็นเลือดจากเนื้อสัตว์จากแผงขายอาหารอีสานเท่านั้น หาไม่แล้วอาจถูกมองว่าไม่ใช่อาหารอีสานแท้ๆ น้ำดีนั้นถูกปากลูกค้าที่ชอบรสขมเล็กน้อย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศและอีกหลากหลายอาชีพที่อยู่รอบๆ พื้นที่ แม้จะได้กำไรเพียงเล็กน้อยแต่ตนก็ไม่อยากขึ้นราคา เพราะต้องการให้คนที่กำลังทรัพย์ไม่มากนักยังซื้อไปรับประทานได้ และตนก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีลูกค้ามากขนาดนี้ ไม่ว่าใครจะพูดถึงคลองเตยอย่างไร แต่ที่นี่มันก็ดี

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/news/cnainsider/bangkok-klong-toey-slum-dancing-shrimp-street-food-13160976