12 พ.ย.63 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เปิดเผยว่ารัฐนิวยอร์กได้กำหนดข้อจำกัดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำกิจกรรมในที่พักอาศัยส่วนตัว บาร์ ร้านอาหาร และโรงยิม หลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทั่วประเทศในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

“นิวยอร์กยึดมั่นหลักวิทยาศาสตร์ เราทราบดีว่าการรวมตัวและจัดงานปาร์ตี้ในอาคารเป็นแหล่งแพร่เชื้อหลัก ดังนั้นรัฐนิวยอร์กจะจำกัดการรวมตัวกันในอาคารส่วนตัวไว้สูงสุดที่ 10 คน เพื่อชะลอการแพร่ระบาด โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่ 22.00 น. ของวันศุกร์ (13 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น” คัวโมเผยผ่านทวิตเตอร์

“รัฐนิวยอร์กกำลังดำเนินสารพัดมาตรการยับยั้งโรคระบาดใหญ่เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สถานประกอบการใดๆ ที่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ซึ่งรวมถึงบาร์และร้านอาหาร จำเป็นต้องปิดให้บริการในเวลา 22.00 น. เช่นเดียวกับโรงยิม เริ่มมีผลทั่วทั้งรัฐตั้งแต่ 22.00 น. ของวันศุกร์ (13 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น” คัวโมกล่าว

“โรคโควิด-19 ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันทั่วประเทศในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ เรากำลังพยายามสุดความสามารถเพื่อรับมือ แต่ชาวนิวยอร์กจำเป็นต้องช่วยเราด้วย ขอให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เข้ารับการตรวจโควิด-19 และปฏิบัติตามแนวทางด้านสุขภาพอย่างจริงจัง”

อนึ่ง ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่ารัฐนิวยอร์กตรวจพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวมอยู่ที่ 33,716 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในประเทศ เมื่อนับถึง 11.30 น. ของวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย

สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภาวะจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยขณะนี้มีรายงานจำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่า 61,000 รายทั่วประเทศ ซึ่งทุบสถิติใหม่สูงสุดนับตั้งแต่การระบาดใหญ่เริ่มอุบัติขึ้นในประเทศ

ที่มา xinhuathai