เมียนมาอ่วมหนัก
ติดเชื้อพุ่ง1.3แสน
จีนให้WHOเข้าปท.
สอบหาต้นตอโควิด
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังพุ่งไม่หยุด “เมียนมา”ยอดป่วยไวรัสโควิดพุ่งทะลุ 1.3 แสนรายแล้ว เสียชีวิต 2.8พันราย‘มาเลเซีย’สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์เพิ่ม12.2ล้านโดส หลังติดเชื้อเกิน2พัน มาเป็นวันที่ 6 ‘ฟิลิปปินส์’จองวัคซีนแห่งที่สองจาก”โนวาแวกซ์”ของสหรัฐ 30 ล้านโด๊ส ด้านรัฐบาลจีนไฟเขียวให้ทีมงานองค์การอนามัยโลกเข้าประเทศ เพื่อสอบค้นหาต้นตอไวรัสมรณะ จะเริ่มปฏิบัติงาน 14 ม.ค.นี้
เมื่อวันที่ 11 มกราคม สำนักข่าวรายงานว่ากระทรวงสาธารณสุขของเมียนมา เปิดเผยว่าได้รับรายงานเมื่อวานนี้ยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ในประเทศสะสมอยู่ที่1.31แสนราย รวมถึงผู้ป่วยเสียชีวิต 2,846 ราย กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า เมียนมาตรวจ พบผู้ป่วยเพิ่ม566ราย ผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม14ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ส่วนยอดผู้ป่วยหายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้วรวมอยู่ที่ 1.14แสนราย โดยปัจจุบันอัตราผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกรายวันของเมียนมา อยู่ที่ร้อยละ2.9ซึ่งยังคงต่ำกว่าร้อยละ5 นับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2563 ทั้งนี้ เมียนมา ทดสอบตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อตรวจโรคโควิด-19ให้ประชาชนแล้วกว่า 1.98 ล้านราย นับตั้งแต่ตรวจ พบผู้ป่วยในประเทศครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2020
กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียแถลงการณ์ระบุว่า ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จากไฟเซอร์/ไบออนเทคเพิ่มอีก 12.2 ล้านโดส ซึ่งการลงนามในข้อตกลงดังกล่าว จะทำให้มาเลเซียสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากไฟเซอร์รวมทั้งหมด25ล้านโดส เพียงพอที่จะฉีดให้แก่ประชาชนร้อยละ 39 จากประชากรทั้งประเทศ 32.58 ล้านคน ทางการมาเลเซียรายงานอีกว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่2,433 คนถือเป็นวันที่ 6ติดต่อกันที่มาเลเซียมีผู้ป่วยติดเชื้อสูงกว่า 2,000คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 9 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 27,332 คน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 551 คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์เรื่องการบรรลุข้อตกลงร่วมกับบริษัทโนวาแวกซ์หนึ่งในผู้ผลิตด้านชีวเภสัชภัณฑ์ของสหรัฐในการสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ของโนวาแวกซ์ จำนวน 30 ล้านโด๊ส
สำหรับการนำเข้าวัคซีนทั้งหมดของโนวาแวกซ์ จะผ่านสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ( เอสไอไอ )ถือเป็นผู้ผลิตวัคซีนใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อวัดจากปริมาณ และมีสำนักงานอยู่ที่เมืองปูเน ในรัฐมหาราษฎระ โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์มีแผนนำเข้าวัคซีนจากบริษัทหลายแห่ง รวมทั้งสิ้น 148 ล้านโด๊ส ภายในปีนี้ เพื่อให้เพียงพอสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชากรราว 70% จากทั้งหมดประมาณ 110 ล้านคน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นรายหนึ่ง เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีต่อตัวกลายพันธุ์ใหม่ล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งต่างจากตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ ที่ผลักจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมันแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า
กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ระบุว่าในบรรดานักเดินทาง 4 คน ที่เดินทางมาถึงสนามบินฮาเนดะของกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 2 มกราคม ชายคนหนึ่งอายุ 40 ปีเศษๆ มีปัญหาด้านการหายใจ ผู้หญิงในวัย 30 ปีเศษๆ ปวดศีรษะและเจ็บคอ ชายวัยรุ่นมีไข้ และคนสุดท้ายเป็นหญิงสาววัยรุ่น ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ ล่าสุด สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่าขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในญี่ปุ่น 289,000 ราย และผู้เสียชีวิต 4,061 ราย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนว่า คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีน( NHC)ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ มีเนื้อหาเพียงว่า คณะทำงานเฉพาะกิจนานาชาติ 10 คนขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะเดินทางถึงกรุงปักกิ่ง ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ม.ค.นี้และมีกำหนดเข้าพบหารือกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทางการจีน
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของเอ็นเอชซี ไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างชัดเจนว่าทีมงานของ WHO “ได้รับอนุญาต”ให้ลงพื้นที่เมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งแรกในโลก ที่มีการยืนยันผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตคนแรกจากโรคโควิด-19หรือไม่และยังไม่มีหน่วยงานแห่งใดของรัฐบาลปักกิ่งยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่าคณะผู้เชี่ยวชาญของ WHOจะเดินทางไปยังสถานที่แห่งใดบ้าง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนเกิดขึ้น หลัง นพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ กล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ ว่ารัฐบาลปักกิ่งยังไม่ได้อนุมัติ “อย่างเป็นทางการ”ให้แก่ทีมงานนานาชาติ10คนของWHOเข้าสู่พื้นที่หลายแห่งในจีนโดยเฉพาะที่เมืองอู่ฮั่นเพื่อปฏิบัติภารกิจ “สอบสวน” และค้นหาแหล่งกำเนิดที่แท้จริงของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่”ซึ่งเป็นเรื่องน่าผิดหวังอย่างยิ่ง”
ต่อมา น.ส.หัว ชุนหยิง โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีนชี้แจงว่า”เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน” แต่เธอปฏิเสธตอบคำถามว่า แล้วเพราะเหตุใดกำหนดการลงพื้นที่จึงล่าช้ากว่าที่มีการแผนไว้แต่เดิม”นานมาก”
สำนักข่าวเอพีเคยเสนอรายงานว่ารัฐบาลปักกิ่งจัดตั้งกองทุนวิจัยเฉพาะกิจเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ให้กับนักวิจัยภายในประเทศ แต่การทำงานอยู่ภายใต้การตรวจสอบและ”จับตาอย่างใกล้ชิด”ของทางการ และการเผยแพร่ข้อมูลจะเกิดขึ้นได้”ต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัติ”จากภาครัฐก่อนเท่านั้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ว่าคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานสถิติเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด ยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 87,536 คน เพิ่มขึ้น 103 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดในรอบนานกว่า 5 เดือน นับตั้งแต่การพบผู้ป่วย 127 คน เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ปีที่แล้ว ขณะที่สถิติสะสมของผู้เสียชีวิต ยังคงอยู่ที่อย่างน้อย4,634 คน
ทั้งนี้ ผลการจำแนกกลุ่มผู้ป่วยใหม่ แบ่งเป็นการเดินทางมาจากต่างประเทศ18 คนและผู้ติดเชื้อภายในประเทศ85 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี