วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ แจ้งต่อนางแนนซี่เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 หรือ The 25th Amendment เพื่อปลดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากผู้สนับสนุนทรัมป์บุกจู่โจมอาคารรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายเพนซ์กล่าวในจดหมายถึงนางเปโลซีว่า เขาไม่เชื่อว่าการใช้วิธีดังกล่าวจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติหรือเป็นวิธีที่ถูกต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญเขายังบอกนางเปโลซีว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดในการทำให้แน่ใจว่า การถ่ายโอนอำนาจจะดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและขอให้เธอและสมาชิกรัฐสภาคนอื่นๆ หลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้เกิดความแตกแยกมากยิ่งขึ้น เขาเรียกร้องให้หันหน้ามาร่วมมือกันลดอุณหภูมิความขัดแย้งและสามัคคีกันในขณะที่สหรัฐกำลังเตรียมการสำหรับการสาบานตนของนายโจ ไบเดน เพื่อเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ของสหรัฐ
จดหมายดังกล่าว ซึ่งสำนักงานรองประธานาธิบดีสหรัฐนำออกเผยแพร่ เกิดขึ้นในขณะที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมจะลงคะแนนเสียงในมติที่ไม่มีผลผูกพันเรียกร้องให้นายเพนซ์ใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ในการปลดนายทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี โดยจนถึงขณะนี้ สมาชิกพรรครีพับลิกันอย่างน้อย 3 คน กล่าวว่า พวกเขาจะลงคะแนนเสียงให้ถอดถอนทรัมป์ จากการเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาและต่อสู้ ก่อนที่ผู้ประท้วงจะจู่โจมเข้าไปอาคารและทำให้เกิดความวุ่นวายจนมีผู้เสียชีวิต 5 ศพ โดย สว. ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา บอกว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ที่ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีอาคารรัฐสภานั้น เป็นสิ่งน่ารังเกียจ สิ่งที่ทรัมป์ทำวันนี้ คือกล่าวโทษคนอื่นในสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้น เป็นเทคนิคที่ชั่วร้ายที่ถูกใช้โดยพวกเผด็จการที่เลวร้ายที่สุด
ด้านคณะนายทหารระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ นำโดยพลเอกมาร์คมิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม กล่าวประณามเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกจู่โจมอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมาระบุเหตุจลาจลรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการทำร้ายโดยตรงต่อรัฐสภา อาคารรัฐสภาและกระบวนการทางรัฐธรรมนูญของสหรัฐ สิทธิในเรื่องของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมนั้น ไม่ได้ให้สิทธิแก่บุคคลใดในการก่อความรุนแรง การปลุกระดมและการก่อการจลาจล ในบันทึกซึ่งส่งถึงทหารในกองทัพสหรัฐ กล่าวว่า สมาชิกของกองทัพสหรัฐพร้อมจะปกป้องรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าการกระทำใดๆ ที่เป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมไม่ได้เป็นเพียงแค่การกระทำที่สวนทางกับประเพณีนิยม ค่านิยมและคำกล่าวสาบานตนเท่านั้น ยังถือเป็นการละเมิดกฎหมายด้วย
บันทึกของคณะเสนาธิการทหารร่วมดังกล่าว ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก มีขึ้นในขณะที่มีความกังวลว่า กลุ่มสุดโต่งที่สนับสนุนทรัมป์ซึ่งบุกรุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภาและก่อเหตุความวุ่นวายเพื่อยับยั้งการลงมติให้การรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายไบเดน จะก่อเหตุความวุ่นวายในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายไบเดน ในวันที่ 20 มกราคม ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้วางกำลังเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 15,000 นาย ดูแลความปลอดภัยในพิธีสาบานตน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี