กัมพูชา ระส่ำแล้ว“นายกฯ ฮุนเซน”สั่งแพทย์ให้รักษาคนไข้โควิดที่บ้านหลังระบาดรุนแรง จนโรงพยาบาลรับไม่ไหว ทั้งประกาศเคอร์ฟิวส์ รีสอร์ท สถานที่ท่องเที่ยว เข้มงวด ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด อินเดียยังวิกฤติต่อเนื่องยอดป่วยรายวันพุ่ง1.15แสนราย ทำสถิติใหม่ ขณะบราซิลอ่วมยอดตายวันเดียวเกิน4พันราย

เมื่อวันที่ 7 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กัมพูชาเป็นประเทศหนึ่ง ที่พบผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดในโลกจนเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน เกิดการระบาดเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นรายแรกของประเทศ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มแบบก้าวกระโดด 5 เท่าตัว เป็น 2,824 ราย

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ของกัมพูชา กล่าวว่า ขณะนี้มีคนไข้ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่าง ๆ 1,003 รายและโรงพยาบาลก็ใกล้จะเต็มความสามารถในการรับคนไข้แล้ว

นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวว่าโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับคนไข้ได้ทั้งหมดในกรณีที่คนไข้มีจำนวนเพิ่มมากกว่านี้ เขากล่าวด้วยว่า ในจำนวนผู้ป่วยโควิดในกัมพูชามีเพียงไม่กี่คนที่หายป่วยแล้วและอีกหลายคนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล แม้ว่าจะสร้างโรงพยาบาลเพิ่มอีก 2-3 แห่งก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้น ควรจะมีการพิจารณาให้ผู้ที่มีอาการป่วยไม่รุนแรงให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน รัฐบาลกัมพูชา จำกัดการเดินทางระหว่างจังหวัดและเมืองอย่างเข้มงวด ห้ามการรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ และประกาศห้ามออกนอกบ้านในเวลากลางคืน หรือ เคอร์ฟิว เป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา กัมพูชายังออกกฎหมายกำหนดโทษจำคุกเป็นเวลายาวนานสำหรับผู้ที่ละเมิดมาตรการด้านสุขภาพ

สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่าคำสั่งดังกล่าวจะยกเว้นยานพาหนะขนส่งสินค้า เจ้าหน้าที่รัฐ บุคลากรการแพทย์ สมาชิกกองกำลังติดอาวุธ และผู้ป่วย รวมถึงยานพาหนะขนส่งแรงงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า หากมีหนังสืออนุมัติจากกระทรวงแรงงานหรือสำนักแรงงานประจำจังหวัด

“คำสั่งห้ามครั้งนี้มีเป้าหมายต่อสู้และป้องกันการแพร่ระบาดข้ามจังหวัดของโรคโควิด-19” ฮุนเซนกล่าว พร้อมเสริมว่ากรุงพนมเปญ เมืองหลวงของประเทศ และจังหวัดกันดาลที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง จะถูกกำหนดเป็นภูมิภาคเดียวกันและยังคงสามารถเดินทางระหว่างกันได้ปกติ

ขณะเดียวกันฮุนเซน ยังสั่งปิดรีสอร์ตท่องเที่ยวทุกแห่งในประเทศเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-20 เม.ย. เพื่อควบคุมการระบาดใหญ่ด้วย

ทั้งนี้ กัมพูชาตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อนับถึงวันอังคาร (6 เม.ย.) ยอดผู้ป่วยยืนยันผลในประเทศรวมอยู่ที่ 2,824 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยเสียชีวิต 22 ราย และผู้ป่วยหายดี 1,794 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ว่าสำนักงานมุขมนตรีกรุงนิวเดลีบังคับใช้เคอร์ฟิวครอบคลุมทุกเขต ระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเริ่มขึ้นแรกตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา และจะมีผลจนถึงวันที่ 30เม.ย.นี้ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียออกรายงานเมื่อวันอังคาร เป็นสถิติเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด ยืนยันผู้ป่วยใหม่ 115,736 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ มีผู้เสียชีวิตวันเดียว 630 ราย ส่งผลให้สถิติสะสมของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอินเดียเพิ่มเป็นอย่างน้อย 166,177 ราย มากที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและบราซิล ส่วนจำนวนผู้ป่วยสะสมพุ่งเป็นอย่างน้อย 12,801,075 คน มากที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและบราซิล และคงเหลือผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในระบบอย่างน้อย 843,473 คน

ด้านกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิลมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19ภายในรอบวันล่าสุด 4,195 ราย มากที่สุดนับตั้งแต่เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคเมื่อเดือนม.ค.ปีที่แล้วส่งผลให้สถิติผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19ในบราซิล สะสมใกล้ถึง340,000ราย มากที่สุดในอเมริกาใต้ เป็นอันดับ2ของโลกรองจากสหรัฐ

ขณะเดียวกัน บราซิลยังกลายเป็นประเทศที่ 3 ของโลก ซึ่งมีจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันจากโรคโควิด-19 มากกว่า 4,000 ราย ต่อจากสหรัฐและเปรู ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 86,979 คน ส่งผลให้สถิติผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นมากกว่า 13.1 ล้านคน มากที่สุดในอเมริกาใต้ และเป็นรองเพียงสหรัฐ

ส่วนสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือเคดีซีเอ รายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 668 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 106,800 คน และผู้เสียชีวิตราว 1,750 คน ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียนอนุบาล ซาวน่า บาร์ และโบสถ์ นอกจากนี้ กว่าร้อยละ 63 ของผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่มาจากกรุงโซลและภูมิภาคโดยรอบ ซึ่งรวมถึงจังหวัดคย็องกีด้วย