10 เมษายน 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการจีน สั่งปรับ"อาลีบาบา กรุ๊ป" อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่เป็นเงินมากเป็นประวัติการณ์ถึง 18,200 ล้านหยวน หรือ ราว 86,630 ล้านบาทในวันนี้ โทษฐานมีพฤติกรรมฉวยประโยชน์จากการครองส่วนแบ่งใหญ่ในตลาด

สำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งรัฐของจีน แถลงว่า คำนวณค่าปรับดังกล่าว หลังจากสรุปผลการสอบสวนที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนธันวาคม เรื่อง อาลีบาบา กรุ๊ป กำหนดให้ผู้ค้าที่ต้องการขายสินค้าในแพลตฟอร์มยอดนิยมของกลุ่ม ห้ามไปลงขายในแพลตฟอร์มคู่แข่ง อาลีบาบา กรุ๊ป ฉวยประโยชน์จากการครองส่วนแบ่งใหญ่ในตลาด เอาเปรียบคู่แข่งอย่างไม่เป็นธรรม ด้วยการใช้ข้อกำหนดดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2558 เป็นพฤติกรรมที่จำกัดการแข่งขันและการสร้างนวัตกรรมในการค้าออนไลน์ ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ของธุรกิจและผู้บริโภค สำนักงานฯ จึงคิดค่าปรับเป็นร้อยละ 4 ของยอดขายปี 2562 ที่มียอดรวม 455,700 ล้านหยวน (ราว 2.18 ล้านล้านบาท)

บลูมเบิร์ก ระบุว่า ค่าปรับดังกล่าวสูงเป็นประวัติการณ์ และเกือบ 3 เท่าของที่ ควอลคอมม์ ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซอฟต์แวร์ และบริการด้านเทคโนโลยีไร้สายของสหรัฐ ถูกจีนปรับเมื่อปี 2558 ด้าน อาลีบาบา กรุ๊ป แถลงสั้น ๆ ผ่านบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ว่า ขอน้อมรับการลงโทษด้วยความเต็มใจ และจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทางกลุ่มจะดำเนินงานตามระเบียบข้อบังคับ สร้างระบบการกำกับดูแลกฎระเบียบ และรับผิดชอบทางสังคมอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ อาลีบาบา กรุ๊ป ถูกทางการจีนตรวจสอบเป็นพิเศษ นับตั้งแต่นายแจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้ง วิพากษ์วิจารณ์ทางการว่าจมอยู่กับอดีตกรณีออกมาติงเรื่อง แอนต์ กรุ๊ป บริษัทการเงินในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป จะเดินหน้าให้บริการสินเชื่อ ประกัน และบริการบริหารความมั่งคั่งทางออนไลน์ แผนการขายหุ้นทั่วไปให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือไอพีโอของ แอนต์ กรุ๊ป ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง-เซี่ยงไฮ้ ถูกทางการจีนสั่งระงับกะทันหัน หลังจากนั้นนายหม่าก็หายหน้าไปจากสาธารณชนหลายสัปดาห์