เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 เว็บไซต์ นสพ.Daily Mail ของอังกฤษ เสนอรายงานพิเศษ Shocking images show Thailand as you've NEVER seen it before with abandoned beaches and empty markets – and even the famous Khao San Road on lockdown ว่าด้วยภาพของประเทศไทยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จากดินแดนที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่เพราะสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้สถานที่ต่างๆ มีสภาพไม่ต่างจากเมืองร้าง
รายงานเริ่มต้นที่ จ.ภูเก็ต หนึ่งในเกาะที่โด่งดังทางภาคใต้ ภาพที่ถ่ายเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2564 ณ หาดป่าตอง แสดงให้เห็นถึงดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่วันนี้ชายหาด ตลาดและร้านค้าว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คน ถนนถูกทิ้งร้าง ส่วนผับ-บาร์ ถูกปิดตามมาตรการของรัฐบาลเพื่อสกัดการระบาดของโรค เช่นเดียวกับ บางลาวอล์คกิ้งสตรีท ย่านสถานบันเทิงยามราตรี มาตรการปิดประเทศส่งผลกระทบอย่างหนักเพราะเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวหยุดชะงัก ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวอาจพบเห็นนกพิราบและแมวได้มากกว่ามนุษย์
ประเทศไทยเคยได้รับการยกย่องว่าควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ดีในช่วงแรกๆ แต่ปัจจุบันกำลังเผชิญสถานการณ์ที่หนักหน่วงในการระบาดระลอกที่ 3 เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อในทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว ในวันที่ 21 เม.ย.2564 พบผู้ติดเชื้อวันเดียวถึง 1,458 คน และเสียชีวิตอีก 4 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 46,643 คน และเสียชีวิตสะสมรวม 110 ราย โดย 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดถูกพบในเวลาเพียงเดือนเดียว และเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2564 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถึง 1,767 คน สูงสุดเท่าที่เคยเก็บสถิติมา
ทางการไทยออกมาตรการหลายอย่างเพื่อควบคุมสถานการณ์ ทั้งการห้ามรวมกลุ่มชุมนุมทำกิจกรรมต่างๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเกินกว่า 50 คน ขอความร่วมมืองดเดินทาง เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ และอีก 17 จังหวัด ถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารต้องปิดทำการเร็วขึ้น ส่งผลให้ถนนข้าวสาร ย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวดูเงียบเหงา
ในขณะที่จังหวัดอื่นๆ ที่เหลือของประเทศถูกจัดเป็นพื้นที่สีส้ม สถาบันการศึกษาและสถานบันเทิงถูกปิดไปจนถึงเดือน พ.ค. 2564 รวมถึงการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับดื่มในร้านอาหาร การระบาดระลอกล่าสุดเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ผู้คนเดินทางในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ท่ามกลางสัดส่วนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ยังอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับพบเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์แบบ B.1.1.7 ที่สามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเชื้อกลายพันธุ์นี้กำลังสร้างปัญหาให้กับหลายประเทศ รวมถึงประเทศใกล้เคียงอย่าง ฟิลิปปินส์ ที่โรงพยาบาลตกอยู่ในภาวะต้องดิ้นรน
การทำงานของทางการไทยในสัปดาห์นี้คือความพยายามหาเตียงให้พอกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากนโยบายที่กำหนดให้ผู้ติดเชื้อทุกคนต้องอยู่ในโรงพยาบาลแม้จะไม่มีอาการใดๆ ก็ตาม แต่นั่นก็นำมาซึ่งความกังวลว่าด้วยขีดความสามารถของโรงพยาบาลในการรองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยรุนแรง นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ (Somsak Akksilp) อธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยันผ่านสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2564 ว่าสามารถหาเตียงให้ได้ภายใน 24 - 48 ชั่วโมง โดยผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการจะไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม หรือโรงแรมที่เปลี่ยนเป็นสถานที่ดูแล
นอกจากนี้ ยังมีแผนการให้ผู้ติดเชื้อที่อาการไม่รุนแรง สามารถกักตัวอยู่ที่บ้านได้ กรณีมีผู้ติดเชื้อต่อวันมากกว่า 1 หมื่นคนขึ้นไป ซึ่งระบบโรงพยาบาลจะไม่สามารถรองรับได้ โดยขณะนี้จำนวนเตียงเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 เตียง จากเดิม 7,000 เตียงในสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลได้ขอให้โรงพยาบาลเพิ่มขีดความสามารถขึ้นอีกร้อยละ 50 เพื่อดูแลผู้ป่วยหนัก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (Prayuth Chan-ocha) นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2564 ว่ารัฐบาลจะพยายามจัดหาวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ให้ได้ 5 - 10 ล้านโดส โดยขณะนี้กำลังรอใบเสนอราคาและข้อกำหนดในการให้บริการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มส่งมอบวัคซีนได้ตั้งแต่เดือน ก.ค.2564 ไปจนถึงสิ้นปี 2564 ทั้งนี้ ประเทศไทยยังไม่ได้เริ่มการฉีดวัคซีนให้กับประชากรเป็นวงกว้าง ปัจจุบันมีเพียง 572,000 คนเท่านั้น ที่ได้วัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส นั่นทำให้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทั้งเรื่องความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 และการพึ่งพาวัคซีนของแอสตราเซเนกามากเกินไป โดยคาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในเดือน มิ.ย.2564
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี