สิงคโปร์ป่วยทุบสถิติ
โควิดลามวันเดียวเฉียด4พัน
มอสโกสั่งอยู่บ้านให้มากที่สุด
ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3,994 ราย สูงเป็นสถิติใหม่ ขณะที่ประชากร 84% ได้รับวัคซีนครบแล้ว ด้านกรุงมอสโกสั่งให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนและผู้สูงวัยอยู่บ้านให้มากที่สุดหลังสถิติโควิดรัสเซียยังพุ่งไม่หยุด สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนแล้ว400ล้านโดส ขณะที่ออสเตรเลียเตรียมผ่อนปรนข้อจำกัดด้านพรมแดนบางส่วน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่หลายรัฐท้องถิ่นมียอดผู้ป่วยโควิดลดลงสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของ ไวรัสโควิด-19 จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประจำวันที่ 20 ตุลาคม 2564 มีดังนี้ ผู้ติดเชื้อรวม 242,294,986 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 4,928,102 ราย รักษาหายรวม 219,638,433 ราย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์รายงานสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 154,725 คน เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 246 ราย และยังคงเหลือผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอีกอย่างน้อย 26,908 คน โดยในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด มีการยืนยันผู้ป่วยใหม่ 3,994 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ นับตั้งแต่สิงคโปร์เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรค เมื่อต้นปีที่แล้ว แบ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 13 คน และติดเชื้อภายในประเทศ 3,981 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 ราย โดยนับเป็นวันที่ 30 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งสิงคโปร์มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ ยืนยันการจับตาอย่างใกล้ชิด ว่าการกลับมาพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ป่วยจะเป็นเพียงชั่วคราว หรือเป็นสัญญาณเตือนของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ เนื่องจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสังเกตว่า ประชาชนออกมาใช้ชีวิตนอกเคหสถานมากขึ้น ทั้งการจับจ่ายซื้อของตามศูนย์การค้า และการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ โดยปัจจุบัน 84% ของประชากรในสิงคโปร์ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบแล้ว และ 85% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ว่า นายเซอร์เก ซอบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และมีอายุเกิน 60 ปี อยู่กับบ้านให้มากที่สุด หากยังคงทำงานขอให้ทำงานจากที่บ้าน ขณะที่สถานประกอบการทั้งของรัฐและเอกชนให้มีพนักงานเข้ามาทำงานในสำนักงานได้สูงสุด 70% และเจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบ คำสั่งทั้งหมดมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.นี้ และมีผลถึงสิ้นเดือน ก.พ.ปีหน้า
ความเคลื่อนไหวังกล่าวของเทศบาลกรุงมอสโก เกิดขึ้นหลังสถิติผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 ทั่วรัสเซียจาก ล่าสุดพุ่งอยู่ที่ 1,015 ราย เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศ เมื่อต้นปีที่แล้ว ขณะที่สถิติผู้ติดเชื้อยืนยันอยู่ที่ 33,740 คน สูงเป็นสถิติใหม่เช่นกัน ทำให้ปัจจุบัน รัสเซียมีสถิติผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 8,060,752 คน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 225,325 ราย โดยในรอบวันล่าสุดมีผู้ที่หายป่วยเพิ่มอีก 23,426 คน แต่ยังคงมีผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอีกอย่างน้อย 794,946 คน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนในประเทศไปแล้วทั้งสิ้น 409,438,987 โดส ณ วันอังคารที่ 19 ต.ค. และกระจายวัคซีนออกไปแล้ว 495,844,635 โดส ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากที่ฉีดไป 408,797,942 โดสเมื่อวันที่ 18 ต.ค. จากที่กระจายวัคซีนออกไป 494,655,075 โดส
ซีดีซีระบุว่า มีประชากร 219,161,368 คนได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ขณะที่ 189,487,793 คนได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ยอดรวมวัคซีนดังกล่าวนับรวมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบ 2 โดสของโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทค รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบ 1 โดสของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทั้งนี้ ประชากรมากกว่า 10.9 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือวัคซีนของโมเดอร์นาโดสที่ 3 แล้วตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. เมื่อสหรัฐอนุญาตให้ฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ให้แก่ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าการฉีดวัคซีนเพียง 2 โดสอาจสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่เพียงพอ
นายอเลฮานโดร มายอร์กาส รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก แม้ว่าได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม โดยจากนี้จะทำงานจากที่บ้านตามกฎระเบียบของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) และคำแนะนำของแพทย์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าออสเตรเลียเตรียมผ่อนปรนข้อจำกัดด้านพรมแดนบางส่วน หลังจากหลายรัฐท้องถิ่นมียอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันลดลง และมีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สูงขึ้น โดยรัฐวิกตอเรียตรวจพบผู้ป่วยในท้องถิ่นรายวันเพิ่ม 1,749 ราย ลดลงจากวันก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1,903 ราย ขณะรัฐนิวเซาธ์เวลส์ (NSW) ตรวจพบผู้ป่วยในท้องถิ่นเพิ่ม 273 ราย ซึ่งนับเป็นการตรวจพบผู้ป่วยใหม่รายวันต่ำกว่า 300 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ต.ค. รัฐควีนส์แลนด์ประกาศแผนงานกลับมาเปิดพรมแดน หลังไม่ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นรายใหม่ และกลายเป็นรัฐที่ปราศจากผู้ป่วยโรคโควิด-19 แห่งแรกที่ร่างแผนเปิดพรมแดนอีกครั้ง
นนาสตาเซีย ปาลัสซ์ซุก มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ เรียกร้องประชาชนฉีดวัคซีนก่อนมีการเปิดพรมแดนต้อนรับวันคริสตมาสต์ พร้อมยืนยันว่านักเดินทางข้ามรัฐและนักเดินทางระหว่างประเทศที่ได้รับวัคซีนครบโดสจะสามารถเดินทางเข้าควีนส์แลนด์ได้โดยไม่ต้องกักตัว หากรัฐบรรลุเป้าหมายอัตราการฉีดวัคซีนแตะร้อยละ 80 ด้านเขตเมืองหลวงออสเตรเลีย (ACT) ประกาศแผนการเปิดพรมแดนกับรัฐนิวเซาธ์เวลส์ในวันที่ 1 พ.ย. หลังนิวเซาธ์เวลส์และเขตเมืองหลวงฯ บรรลุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี