ไทเป/วอชิงตัน (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส) - ไต้หวันท้าทายจีนครั้งสำคัญ เปิดสำนักงานตัวแทนการทูตไต้หวันในลิทัวเนีย ใช้ชื่อ “ไต้หวัน” ตรงๆ เป็นครั้งแรก เป็นการเปิดสำนักตัวแทนการทูตไต้หวันในยุโรปครั้งแรกในรอบ 18 ปี และถือเป็นชัยชนะทางการทูตของไต้หวันครั้งใหญ่ ด้านจีนประณามการกระทำของไต้หวันด้วยถ้อยคำรุนแรง และเตือนลิทัวเนียจะได้รับผลการกระทำ

ไต้หวันประกาศเปิดสำนักงานตัวแทนทางการทูตของไต้หวันอย่างเป็นทางการในกรุงวิลนิอุส ของลิทัวเนีย เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน เปรียบเสมือนเป็นสถานทูต
ไต้หวันโดยพฤตินัย โดยใช้ชื่อ “ไต้หวัน” ตรงๆ เป็นครั้งแรก และนับเป็นการเปิดสำนักตัวแทนทางการทูตของไต้หวันแห่งใหม่ในยุโรปในรอบ 18 ปี ถือเป็นชัยชนะทางการทูตครั้งใหญ่ของไต้หวัน ที่ผ่านมา สำนักงานตัวแทนการทูตของไต้หวันทั้งหมดในยุโรปและในสหรัฐฯ ได้เลี่ยงไปใช้คำว่า “ไทเป” เพื่อหลีกเลี่ยงการระบุชื่อไต้หวันโดยตรง เนื่องจากจีนอ้างอธิปไตยเหนือเกาะไต้หวัน และถือว่าไต้หวันเป็นของจีน

การกระทำของไต้หวันและลิทัวเนียดังกล่าว สร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่จีนกระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ประณามไต้หวันด้วยถ้อยคำที่รุนแรงมากว่า เป็นการกระทำที่ “เลวทรามอย่างยิ่ง” และการกระทำใดๆ ที่หวังจะแสวงหาเอกราชของไต้หวัน รังแต่จะล้มเหลวเท่านั้น พร้อมกับเรียกร้องให้ลิทัวเนียแก้ไขการกระทำที่ผิดพลาดดังกล่าวโดยเร็ว และเตือนลิทัวเนียเตรียมตัวรับผลที่จะเกิดขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้จีนยังแสดงความไม่พอใจ ที่ลิทัวเนียตัดสินใจจะเปิดสำนักตัวแทนการทูตของตนในไต้หวันด้วย แม้ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาชัดเจนก็ตาม รวมถึงยังไม่พอใจกรณีลิทัวเนียเปิดเผยว่า ตกลงจะให้ไต้หวันเปิดสำนักงานตัวแทนการทูตโดยให้ใช้ชื่อ “ไต้หวัน” โดยตรง ทำให้จีนสั่งถอนตัวเอกอัครราชทูตจีนประจำลิทัวเนียกลับประเทศทันที และบอกให้ลิทัวเนียทำอย่างเดียวกันด้วย และลิทัวเนียก็ได้ถอนตัวเอกอัครราชทูตลิทัวเนียประจำจีน กลับประเทศเช่นกัน

ปัจจุบันไต้หวันมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับประเทศอื่นๆ ทั้งหมดเพียง 15 ประเทศเท่านั้นในโลกนี้ หลังจากจีนประสบความสำเร็จในการกดดันให้ประเทศอื่นๆ ตัดสัมพันธ์ หรือจำกัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าคณะกรรมาธิการตรวจสอบทบทวนด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงสหรัฐฯ-จีน ของรัฐสภาสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ล่าสุด ที่ระบุว่า ตอนนี้ กองทัพจีนมีศักยภาพมากพอ ที่จะเปิดฉากทำสงครามบุกรุกรานไต้หวันอย่างเต็มรูปแบบได้แล้ว หลังจากที่กองทัพจีนได้สะสมเพิ่มจำนวนขีปนาวุธใหม่ในคลังแสงขีปนาวุธ และเพิ่มจำนวนเรือสะเทินน้ำสะเทินบกได้เป็นจำนวนมาก โดยจีนได้เพิ่มจำนวนขีปนาวุธพิสัยการยิงระยะกลางที่เล็งตรงไปยังไต้หวัน เพิ่มขึ้นจาก 30 ลูกเป็น 200 ลูกแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนการเพิ่มจำนวนเรือสะเทินน้ำสะเทินบกใหม่หลายลำ เป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพของกองทัพเรือจีนและกองเรือของพลเรือนจีนด้วยโดยเรือของพลเรือนจีนนั้น สามารถนำมาดัดแปลงให้เป็นเรือขนส่งทหารกองทัพจีนข้ามช่องแคบไต้หวันที่มีระยะทาง 160 กิโลเมตรได้

รายงานล่าสุดของรัฐสภาสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า แม้ว่าการเปิดฉากทำสงครามรุกรานไต้หวันอย่างเต็มรูปแบบ จะสร้างความเสี่ยงสูงให้แก่จีนก็ตาม แต่จีนสามารถใช้วิธีการโจมตีจากระยะไกลเข้าช่วยเสริมได้ ด้วยการยิงขีปนาวุธ การใช้สงครามไซเบอร์ และการปิดล้อมไต้หวัน รายงานนี้ยังสรุปด้วยว่า จากพัฒนาการก้าวหน้าของกองทัพจีนทั้งหมดนี้แต่เมื่อหันกลับมาดูศักยภาพของกองทัพสหรัฐฯ ในการเข้าขัดขวางจีน จากการโจมตีไต้หวัน กองทัพสหรัฐฯ กลับอยู่ในช่วงเวลาของ “ความไม่แน่นอนที่น่ากลัว” และมี “ความแน่นอนน้อยลง” ว่า การใช้เพียงอาวุธ“ในรูปแบบ” ของกองทัพสหรัฐฯ อาจไม่สามารถสกัดขัดขวางจีน ในการเริ่มเปิดฉากบุกโจมตีไต้หวันได้