เกาหลีใต้ติดเชื้อโควิดวันเดียวทะลุ 8.5 พันราย โดยมีสาเหตุหลักมาจาก “โอมิครอน” ท่ามกลางความวิตกว่าอาจจะเกิดการระบาดระลอกใหญ่ก่อนถึงช่วงวันหยุดยาว ขณะที่ญี่ปุ่นขยายพื้นที่คุมเข้มครอบคลุมพื้นที่ 70% ทั่วประเทศ ฮ่องกงเพิ่มการล็อกดาวน์บางส่วนในพื้นที่พักอาศัยของการเคหะอีก 1 อาคาร หลังพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 200 คน สหราชอาณาจักรเตรียมยกเลิกข้อกำหนดตรวจโรคติดเชื้อไวรัสสายโควิด-19 ทั้งหมด สำหรับนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนครบโดส ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี แจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,571 คน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แซงหน้าสถิติเดิมที่ 7,848 คน เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2564 ทั้งที่ช่วงสุดสัปดาห์มีการตรวจหาเชื้อน้อย เนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ง่ายกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกลายเป็นสายพันธุ์หลักในเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ก่อน เกาหลีใต้นำมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้งตั้งแต่เดือนธันวาคม หลังจากยอดผู้ติดเชื้อรายวันและผู้ป่วยอาการหนักทำสถิติสูงสุดจนเสี่ยงทำให้ระบบสาธารณสุขรับไม่ไหวในช่วงก่อนที่จะเกิดการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน
ยอดติดเชื้อรายวันในเกาหลีใต้ลดลงเกือบครึ่งเหลือวันละ 4,000 คนในเดือนนี้ แต่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเพราะการติดเชื้อโอมิครอน จุดกระแสวิตกว่าอาจจะเกิดการระบาดระลอกใหญ่ก่อนถึงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติที่ชาวเกาหลีใต้หลายล้านคนทั่วประเทศมักเดินทางไปเยี่ยมครอบครัว
ประธานาธิบดีมุน แจอิน แถลงขอร้องเป็นพิเศษ ให้งดการเดินทางและรวมตัวช่วงวันหยุดที่จะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์นี้ เกาหลีใต้ซึ่งมีประชากร 52 ล้านคน มียอดติดเชื้อสะสม 749,979 คน เสียชีวิต 6,588 คน ขณะที่ผู้ใหญ่มากกว่าร้อยละ 95 ฉีดวัคซีนแล้ว และเกือบร้อยละ 58 ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะที่ปรึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมที่จะอนุมัติการขยายมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปในอีก 18 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ถึง 70% ของญี่ปุ่นต้องอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวดดังกล่าว ภายใต้จังหวัดที่มีการประกาศบังคับใช้มาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมยังรวมถึงโอซากาและเกียวโต เพื่อรับมือกับการเพิ่มขึ้นของผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ อันเป็นผลจากไวรัสโควิดกลายพันธุ์โอมิครอน คาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะให้การรับรองการขยายพื้นที่ดังกล่าวในวันเดียวกันนี้
มาตรการคุมเข้มที่ประกาศเพิ่มเติมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม จนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ สามารถสั่งการให้ร้านอาหารและบาร์ลดเวลาเปิดทำการลง รวมถึงให้ยุติการเสิร์ฟแอลกอฮอล์ด้วย การขยายมาตรการคุมเข้มดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในญี่ปุ่น 44,000 คน
ทางด้าน นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงเผยว่า จะล็อกดาวน์อาคารหลังที่ 2 ของการเคหะไขว่ช้งในเขตดินแดนใหม่เป็นเวลา 5 วัน หลังจากล็อกดาวน์อาคารหลังแรกที่พบการติดเชื้อไปแล้ว ซึ่งจะถูกขยายเวลาล็อกดาวน์จาก 5 วันเป็น 7 วัน เพื่อปกป้องผู้อยู่อาศัยและป้องกันเชื้อไวรัสแพร่ระบาด ผู้อาศัยในอาคารที่ถูกล็อกดาวน์หรือผู้ไปอาคารที่พบเชื้อไวรัสจะต้องตรวจหาเชื้อ ขณะที่โรงเรียนในพื้นที่ที่พบการระบาดถูกปิดชั่วคราว และห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านหลังเวลา 18.00 น.
ทั้งนี้ เมืองเซินเจิ้นบนแผ่นดินใหญ่ของจีนที่อยู่ตรงข้ามฮ่องกงประกาศใช้ระเบียบเข้มงวดกับผู้เดินทางมาจากฮ่องกงตั้งแต่วันพรุ่งนี้ โดยต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ต้องกักตัว 14 วันในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนด และกักตัวต่อที่บ้านอีก 7 วัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหราชอาณาจักรเตรียมยกเลิกข้อกำหนดตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั้งหมด สำหรับนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสตามเกณฑ์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ซึ่งเป็นความพยายามส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่ต้องการกลับมาเปิดภาคการเดินทางท่องเที่ยว
แถลงการณ์จากรัฐบาลสหราชอาณาจักรเมื่อวันจันทร์ ระบุว่าจะมีการยกเลิกข้อกำหนดตรวจโรคโควิด-19 ทั้งหมด สำหรับผู้โดยสารขาเข้าที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสตามเกณฑ์ และแสดงแบบฟอร์มระบุพิกัดที่อยู่ของผู้โดยสาร (Passenger Locator Form) ตั้งแต่ 04.00 น. ของวันที่ 11 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนนักเดินทางที่ไม่ผ่านการรับรองว่าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสตามเกณฑ์ ต้องตรวจโรคโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง และเข้ารับการทดสอบพีซีอาร์ ภายในหรือก่อนวันที่ 2 หลังเดินทางมาถึงสหราชอาณาจักร
กรันต์ แชปส์ รมต.คมนาคมสหราชอาณาจักร กล่าวในแถลงการณ์ว่า ขั้นตอนสุดท้ายในการกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศอย่างมั่นคงและปลอดภัยเป็นแรงกระตุ้นสำคัญของภาคการท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร ซึ่งทำให้ประชาชนเป็นอิสระก่อนช่วงปิดเทอมกลางภาคและวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ
นอกจากนั้นสหราชอาณาจักรยังวางแผนยอมรับใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากอีก 16 ประเทศ ซึ่งรวมถึงจีนและเม็กซิโก ทำให้ขณะนี้สหราชอาณาจักรยอมรับใบรับรองการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากมากกว่า 180 ประเทศและดินแดนทั่วโลกแล้ว
ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 88,447 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 15,953,685 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 56 ราย ทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตรวม 153,916 ราย ในวันจันทร์ ขณะเดียวกันประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไป ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกมากกว่าร้อยละ 90 ได้รับวัคซีนครบโดสมากกว่าร้อยละ 83 และได้รับวัคซีนโดสกระตุ้นมากกว่าร้อยละ 64 แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี